TRT แบ็กล็อกแน่น 1.7 พันล้าน รับออเดอร์ Data Center–ส่งออกพุ่ง ดันรายได้ปีนี้ 2.3 พันลบ.

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยในงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.26 ล้านบาท ลดลง 95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 95.76 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากรายได้รวมลดลงเหลือ 283.58 ล้านบาท ลดลง 62% จากปีก่อนที่ 759.51 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ผันผวน รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ทำให้ลูกค้าภาครัฐและเอกชนชะลอและเลื่อนการจัดซื้อ ส่งผลให้หลายโครงการล่าช้าออกไปจากแผนเดิมและกระทบต่อผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าว

สำหรับโครงสร้างรายได้ตามกลุ่มธุรกิจรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Business) ครอบคลุมหม้อแปลง Distribution, Power และงานบริการหม้อแปลง มีสัดส่วนดังนี้

1.1 ภาครัฐ 63% ลูกค้าหลัก ได้แก่ การไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)

1.2 เอกชนในประเทศ 23% เป็นบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (SET50,SET100) เช่น กลุ่มเหล็ก น้ำตาล โรงไฟฟ้า และโครงการพลังงาน รวมถึงงานโครงการระดับนานาชาติ

1.3 ส่งออก 14% ปัจจุบันมุ่งตลาดเอเชียและเอเชียใต้ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะหม้อแปลงขนาดใหญ่สำหรับภาคอุตสาหกรรมและ Data Center

2. กลุ่มธุรกิจ Non-Transformer ได้แก่ รถกระเช้า รถเครน และงานโครงสร้างเหล็ก (Steel Fabrication)

นายสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม แม้ปีนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการกีดกันทางการค้าแต่อุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าในภูมิภาคอยู่ในทิศทางบวก ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการ Data Center ซึ่งต้องใช้หม้อแปลงขนาดใหญ่จำนวนมาก ส่งผลให้ TRT ได้รับคำสั่งซื้อจากตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้แนวโน้มการลงทุนภาครัฐเริ่มกลับมาเดินหน้าในไตรมาส 4 บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้รวมประมาณ 2,300 ล้านบาท ภายในสิ้นปีจากการทยอยส่งมอบงานในมือ

โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 บริษัทมี Backlog 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงานระยะยาวกลุ่ม Data Center ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานที่ถูกเลื่อนมาจากปีนี้ โดยคาดว่าในปี 2569 บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ แตะระดับ 3,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยไตรมาสละราว 750 ล้านบาท

ส่วนกลยุทธ์ปี 2569 บริษัทวางกลยุทธ์หลักเพื่อรองรับการเติบโต ดังนี้ เดินหน้าขยายตลาดส่งออกไปสหรัฐฯและยุโรป ,เน้นหม้อแปลงขนาดใหญ่รองรับ Data Center และโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า,เพิ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้งในประเทศ–ต่างประเทศ รวมถึงอินเดีย เพื่อลดความเสี่ยงด้าน Supply Chain,พัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีรองรับงานหม้อแปลงแรงดันสูง,รักษานโยบายอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20% และวางงบลงทุนปีละราว 50 ล้านบาท ใกล้เคียงค่าเสื่อมราคา เพื่อรักษาสภาพคล่องและไม่กระทบกระแสเงินสดของบริษัท