
บล.เคจีไอ มองบวก AOT รับอานิสงส์สัญญาดิวตี้ฟรี–ขึ้นค่า PSC หนุนกำไรโตระยะยาว
บล.เคจีไอ ระบุสัญญาดิวตี้ฟรีใหม่ของ AOT ช่วยหนุนกำไรปี 2569 มีอัพไซด์ราว 17% และการขึ้นค่า PSC ช่วยหนุนกำไรปี 2569 อย่างไรก็ดีฝ่ายนักวิเคราะห์เตรียมทบทวนประมาณการ–ราคาเป้าหมายใหม่ในเร็วนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากกรณี บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกำ (มหาชน) หรือ AOT ประกาศว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติผลการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาการดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรีในสนามบินที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(BKK), ดอนเมือง (DMK), ภูเก็ต (HKT), เชียงใหม่ (CNX) และหาดใหญ่ (HDY) โดยการแก้ไขสัญญาของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคือ AOT จะคงโครงสร้างการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อหัว (Minimum Guarantee: MG) ไว้ตามหลักเกณฑ์เดิมและจะคิดเป็นรายปี (เทียบเท่า 232.90 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งคนพร้อมอัตราการเติบโตต่อเนื่องปีละ 5%) ส่วนสนามบินอื่น ๆ ให้คงตามเงื่อนไขเดิมทั้งหมด โดยที่ ผลลัพธ์นี้ดีกว่าสมมติฐานสัดส่วนแบ่งรายได้ 20% ตามสมมติฐานของฝ่ายนักวิเคราะห์ในปีงบประมาณ 2569 ในเบื้องต้นฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าประมาณการกำไรจะมี upside อยู่ราว 17% และมี Upside ต่อ valuation ปัจจุบันราว 10% ด้วย
ประกอบกับคณะกรรมการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAB) ซึ่งมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมปัจจุบันเป็นประธาน ได้มีมติปรับเพิ่มค่า PSC (Passenger Service Charge) ขึ้นเป็น 1,120 บาท/คน (เพิ่มขึ้นอีก 390 บาทจากอัตราปัจจุบันที่ 730 บาท/คน) โดยใช้กับสนามบินทั้ง 6 แห่งที่ ทอท. บริหาร
อย่างไรก็ดีจากการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis) ชี้ว่าการปรับเพิ่มค่า PSC ดังกล่าวจะช่วยหนุนกำไรและvaluation ของบริษัทเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569 เป็นต้นไป Valuation and action
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองแนวโน้มกำไรระยะยาวของบริษัทเชิงบวกภายหลังการปรับสัญญากับ KP และการขึ้นค่าPSC สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดีฝ่ายนักวิเคราะห์จะพิจารณาประมาณการกำไรตั้งแต่ปีงบประมาณ2569 อีกครั้ง ดังนั้น อยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำและราคาเป้าหมายใหม่

