
SA ชูโมเดล “Investment Program” การันตีผลตอบแทน 5% ปิดประตูเสี่ยง-ไร้ค่าใช้จ่ายแฝง
SA เผยกระแสตอบรับ “Investment Program” คึกคัก การันตีผลตอบแทน 5% ตลอดสัญญา 5 ปี ลดความเสี่ยงปล่อยเช่าคอนโดรูปแบบเดิม ชูดีมานด์ต่างชาติหนุนทำเลสุขุมวิท พร้อมส่งมอบ 2 โครงการปี 2569 และตุนแบ็กล็อก 3,000 ล้านบาท
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า Investment Program ถูกออกแบบให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน พร้อมลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมบำรุง และการดูแลผู้เช่าอย่างครบวงจร จึงไม่เกิดความเสี่ยงจากห้องว่างหรือค่าใช้จ่ายแฝง โดยผลตอบแทน 5% ที่จ่ายให้แก่ผู้ลงทุนมาจากรายได้ของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนจริงเฉลี่ยราว 5–7% หลังหักต้นทุน บริษัทจึงสามารถแบ่งคืนผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ การลงทุนคอนโดปล่อยเช่าทั่วไปมักมาพร้อมความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมบำรุง ค่าคอมมิชชันนายหน้า รวมถึงภาระการซ่อมแซมห้องเมื่อครบสัญญาเช่าที่มักสูงกว่าที่คาด ทำให้ผลตอบแทนสุทธิไม่ถึงระดับยีลด์ที่ผู้ลงทุนต้องการ SA จึงมีทีมงานดูแล Investment Program โดยส่งทีมแม่บ้านเข้าไปตรวจสอบและทำความสะอาดห้องอย่างต่อเนื่อง หากพบความเสียหายเล็กน้อยจะดำเนินการซ่อมแซมทันที ผู้ลงทุนจึงไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การบริหารจัดการแบบครบวงจรนี้ทำให้บริษัทสามารถการันตีผลตอบแทน 5% ต่อปีตลอด 5 ปี พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนว่ากระแสเงินสดจะคงที่และไม่ถูกลดทอนจากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด โดยเมื่อครบสัญญา ผู้ลงทุนสามารถเลือกรับเงินต้นคืนเต็มจำนวน ต่อสัญญารับผลตอบแทนที่อาจสูงกว่า 5% ตามภาวะตลาด หรือถือครองทรัพย์เพื่อนำไปขายต่อ (รีเซล) ซึ่งมีโอกาสสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น หากโครงการได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ
โครงการที่อยู่ภายใต้ Investment Program และได้รับความสนใจสูง ได้แก่ Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42, Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Blossom Condo @Sathorn-Charoenrat, Ramada By Wyndham Bangkok Sukhumvit 87 และ Landmark At MRTA Station ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ระบบขนส่งมวลชน มีอัตราการเข้าพักคงที่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เช่าต่างชาติ เช่น Expat และชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้โครงการ Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42 มีอัตราค่าเช่าห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนอยู่ในระดับ 70,000–90,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าเฉลี่ยของคอนโดในทำเลเดียวกันที่ประมาณ 50,000–70,000 บาทต่อเดือนอย่างมีนัยสำคัญ
“เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่มีนายภาพ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง SA จะเดินหน้าขยายฐานรายได้และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
ด้านแผนพัฒนาโครงการในอนาคต นายขจรศิษฐ์ เปิดเผยว่า SA เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียม 2 โครงการในกรุงเทพฯ ได้แก่ โครงการย่านแฟชั่นไอส์แลนด์ และโครงการทุ่งสองห้อง รวมมูลค่าราว 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2569 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทยังมีแบ็กล็อกประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2569 ช่วยเสริมความมั่นคงของฐานธุรกิจในระยะกลาง
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ในย่านตลิ่งชัน และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขยายการลงทุนในจังหวัดภูเก็ตอีก 2 ทำเล ได้แก่ บางเทา และกมลา มูลค่าโครงการรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นคอนโดมิเนียม เรสซิเดนซ์ โรงแรม และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Shophouse) ซึ่งคาดว่าจะเป็นทำเลศักยภาพรองรับตลาดท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าต่างชาติในอนาคต
สำหรับธุรกิจโรงแรม SA ยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีหน้าจะสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (EBITDA) ราว 600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและรองรับการเติบโตในระยะยาว บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการคุณภาพ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

