ได้เวลา! 10 หุ้น เด้งแรง-ยอดขายพุ่งช่วงกินเจรับประกัน “อิ่มบุญ อิ่มกาย อิ่มใจ” กันถ้วนหน้า

ได้เวลา! 10หุ้น เด้งแรง-ยอดขายพุ่งช่วงกินเจ รับประกัน "อิ่มบุญ อิ่มกาย อิ่มใจ" กันถ้วนหน้า


เทศกาลกินเจถือเป็นเทศกาลอิ่มบุญสำหรับคนไทยมายาวนาน และดูเหมือนว่าผู้คนจะให้ความสนใจกินเจเพิ่มมากขึ้น โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเทศกาลกินเจปี 59 ช่วง 1-9 ต.ค.นี้  มองว่าผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.2 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมองว่าจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาท/คน/วัน โดยอัตราการขยายตัวดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผู้บริโภคเพิ่มจำนวนวันกินเจ และราคาสินค้าอาหารเจที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจาก 270 บาท/คน/วันในปีที่แล้วเป็น 300 บาท/คน/วันในปีนี้ ขณะเดียวกันจำนวนผู้บริโภคอาหารเจที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากเทรนด์รักสุขภาพก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้ว

แน่นอนเม็ดเงินดังกล่าวได้สร้างโอกาสทางการตลาดและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการกินเจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยเชื่อว่าจะมีรายได้หนุนเข้าบริษัทเต็มๆ ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบหุ้นที่ได้รับผลดีจากเทศกาลเจมานำเสนอเพื่อนักลงทุนจะได้ อิ่มบุญ อิ่มกาย และอิ่มใจที่ได้หุ้นน่าลงทุนไปด้วย โดยหุ้นที่ได้รับผลดีชัดเจนจะอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งกลุ่มบริการ

 

สำหรับหุ้นกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ LST,TVO,UPOIC,UVAN และ VPO โดยจะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช ซึ่งป็นองค์ประกอบและวัตถุดิบที่จำเป็นในช่วงกินเจ ตรงนี้ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อยอดขายธุรกิจแต่ละบริษัทอย่างมาก ส่วน MALEE,TIPCO ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับผลไม้ แน่นอนสินค้าประเภทนี้จะได้รับความนิยมและขายดีในช่วงกินเจอย่างมาก

โดยบริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช ไขมันพืชผสม และเนยเทียม ผักและผลไม้แช่แข็งหรือบรรจุกระป๋อง น้ำผลไม้ กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ และซอสปรุงรส โดยสินค้าที่เป็นที่รู้จักกันดีคือน้ำมันพืชตราหยก

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า เริ่มเทศกาลกินเจปีนี้ต้น ต.ค. จะเป็นช่วง High season ต่อหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้อง อาทิ LST คาดเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลือง (ยี่ห้อ “Home Soy” ผลิตภายใต้ UFC บ.ลูกของ LST ถือหุ้น 99%) และสินค้าเครื่องดื่มน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวยี่ห้อ UFC จะรับอานิสงส์เทศกาลกินเจปีนี้ โดยกำไรจาก UFC ในครึ่งปีแรกคิดเป็น 65% ของกำไรรวม ดังนั้นประเมินราคา Laggard หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มด้วย PE ตอนนี้เพียง 11.6 เท่า  

ส่วนบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง(ตราองุ่น) และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ได้แก่ กากถั่วเหลือง, ดีฮัล ซอยมีล, ฟูลแฟตซอย, ดีฮัล ฟูลแฟตซอย รวมทั้ง เลซิติน น้ำมันทานตะวัน และกากทานตะวัน

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ราคาสินค้า Soft commodities มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ล่าสุดราคากากถั่วเหลืองที่เริ่มขยับตัวขึ้น ล่าสุด 313.20 เซนต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้น 2% mtd คาดเนื่องจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของสหรัฐ ทำให้เกษตรกรต้องเลื่อนการเก็บเกี่ยวถั่วออกไป หนุนราคากากถั่วเหลืองตลาดโลกให้เริ่มกระเตื้องขึ้น ซึ่งดีต่อ TVO([email protected]) ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว ประกอบกับ TVO มีการจ่ายปันผลสูงราว 6%

ด้านบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UPOIC ผู้ดำเนินกิจการปลูกปาล์มน้ำมัน และมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น เช่น น้ำมันปรุงอาหาร เนยเทียม ไอศครีม สบู่ แชมพู ส่วนผสมอาหาร เคมีภัณฑ์ อาหารสัตว์ เป็นต้น และน้ำมันปาล์มยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือก

ส่วนบริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UVAN ดำเนินธุรกิจหลัก คือ สวนปาล์ม สกัดน้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงกลั่นน้ำมันปาล์มทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์พลอยได้ คือ เมล็ดในปาล์ม กากเมล็ดในปาล์มและกะลาปาล์ม  

ด้านบริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากของเสียหรือสิ่งเหลือใช้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กลุ่มเกษตร-อาหาร ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดมาเลเซีย ณ วันที่ 22 ก.ย. 59 เท่ากับ 2.91 พันริงกิต/ตัน ปรับเพิ่มขึ้น2.6% จากสัปดาห์ก่อนหน้า สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน และทำระดับสูงสุดในรอบ 30 เดือน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศอินเดีย

นอกจากนี้ ปริมาณผลปาล์มสดในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยยังออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติจากผลกระทบภัยแล้งในช่วงต้นปี 2559 ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี 2559 ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มน้ำมันปาล์ม

โดยประเมินว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขั้นต้นและขั้นกลาง (UVAN UPOIC และ VPO) จะได้รับผลบวกมากที่สุด เพราะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งมีราคาขายอ้างอิงกับราคาต่างประเทศ 

ส่วนบริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ MALEE ผลิตและจำหน่ายผลไม้กระป๋องและน้ำผลไม้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า มาลี โดยมีจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้านบริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรดเข้มข้น น้ำผลไม้รวมและเครื่องดื่มบรรจุพร้อมดื่ม เช่น น้ำสมุนไพรและน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่ม

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ได้ SCAN หุ้นที่มีโอกาสทำ New High พบว่าที่เข้ามาใหม่ คือ ANAN,SMPC,MALEE

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุว่า TIPCO เป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้อันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2015 ด้วยกำลังการผลิต 14 ล้านกล่องต่อปี   ผู้บริโภคปัจจุบันให้ความใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี แนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 17.70 บาท

 

ส่วนกลุ่มหุ้นบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ อาทิ CPALL,BIGC และ MAKRO ก็น่าจะเป็นได้รับผลดีไม่แพ้กัน เพราะร้านสะดวกซื้อจะมีอาหารหลากหลาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ขณะที่ห้างสรรพสินค้าก็ได้ประโยชน์การจับจ่ายสินค้าและการจัดโปรโมรชั่นรับเทศกาลเจตรงนี้ก็น่าจะหนุนยอดขายได้อย่างมาก 

โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “แม็คโคร”

ส่วนบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ แม็คโคร ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจนำเข้า, ส่งออก และจำหน่ายสินค้าแช่แข็งและแช่เย็น

ด้านบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIGC บริษัทชั้นนำในธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารสมัยใหม่ของประเทศไทย ประกอบธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการให้เช่าและบริการพื้นที่ (Dual retail-property model) รูปแบบธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่าและบริการสถานที่ 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/59 ของ CPALL เพราะเป็นช่วงเทศกาลเจที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 มียอดจำหน่ายมาก และมีการจัดแคมเปญแสตมป์ในช่วงวันที่ 26 ก.ค.-25 ก.ย.นี้ จะช่วยทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง จากช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดขายดีมาก โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตถึง 5% ถือว่าสูง จากสภาพอากาศร้อนทำให้มียอดขายเครื่องดื่มเย็นมากขึ้น และการที่มีสินค้าหลากหลายเข้ากับไลฟ์สไตล์

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท

 

*ข้อมูลดังกล่าวเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนระยะสั้นช่วงเทศกาล (1-9 วัน) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังถึงความเสี่ยง และพิจารณาปัจจัยพื้นฐานรวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย

Back to top button