ดักเก็บหุ้น! 5 ธีมเด่นเดือนพ.ย.ชู 7 ตัวท็อปต้องสอยเข้าพอร์ต

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลการลงทุนที่น่าสนใจเดือน พ.ย. มานำเสนอจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อให้เห็นทิศทางและปัจจัยที่น่าสนใจและมีผลต่อแนวโน้มการลงทุนชัดเจนมากขึ้น โดยแนวโน้มเดือน พ.ย.มีหุ้นที่น่าสนใจ 5 กลุ่ม และหุ้น Top picks เดือน พ.ย. 59


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลการลงทุนที่น่าสนใจเดือน พ.ย. มานำเสนอจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อให้เห็นทิศทางและปัจจัยที่น่าสนใจและมีผลต่อแนวโน้มการลงทุนชัดเจนมากขึ้น โดยแนวโน้มเดือน พ.ย.มีหุ้นที่น่าสนใจ 5 กลุ่ม และหุ้น Top picks เดือน พ.ย. 59 อาทิ PTTEP, BJC, CK, STPI, PSTC และ NYT

 

บล.โนมูระ พัฒนสินระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดแนวโน้มตลาดเดือน พ.ย.59 มีโอกาสฟื้นตัว 2-3 สัปดาห์ ก่อนย่อจากแรงขายทำกำไรเล่นรอบ ที่แนวต้าน 1,520/1,537 จุด และมีแนวรับ 1480/1467 จุด โดยคาดหุ้นปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, PTT) ยังเป็น Big Cap ที่นำตลาด ผสานหุ้น Theme เด่น อาทิ 

1) Bottom Out ทั้งราคาหุ้นและภาพอุตสาหกรรมพ้นจุดต่ำสุด (STPI, NYT, MONO, WORK, INTUCH, ADVANC, BRR)

2) Contractor เด่นรับวงจรการประมูลงานภาครัฐฯรอบใหม่ (CK, STEC, PYLON, BEM)

3) BANK Deep Valuation & ไตรมาส 4/59 Earning Recovery (BBL, TCAP, TMB)

4) Earning ครึ่งหลังปี 59 Play ในกลุ่ม Mid-Small Caps แนะนำ Commerce (MC), Health (BDMS, BCH, VIBHA), Food (CPF, GFPT), Tourism (SPA, ERW)

5) กลุ่มพลังงานทางเลือกที่มีกำหนดยื่นซองประมูลขยะชุมชน ในเดือน พ.ย. 59 นี้ (PSTC, TPCH) สำหรับ Portfolio Top picks เดือน พ.ย.59 แนะนำ PTTEP, BJC, CK, STPI, PSTC, NYT ส่วน DARK Horse BRR, KAMART, MC

 

บล.เอเซีย พลัสระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดยังขาดประเด็นหนุนใหม่ๆ ขณะที่ยังมี fund flow ไหลออกต่อเนื่อง และราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่า 50 เหรียญฯ กดดัน SET ต่ำกว่า 1,500 จุด ยังให้สะสมหุ้นกำไรเด่นไตรมาส 4/59 (ASK, WHA, SAWAD, HMPRO, BJC) Top picks คือ BJC (ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท) และ CK (ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท) มีความคืบหน้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพูและเหลือง 

ส่วนแนวโน้มเดือน พ.ย. คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากประเด็น Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ รวมทั้งต่างชาติยังมีโอกาสเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ตราบที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน และยังสอดคล้องกับสถิติย้อนหลัง 10 ปี ที่ต่างชาติมีโอกาสขายหุ้นไทยถึง 70% โดยขายสุทธิเฉลี่ยถึง 1.2 หมื่นล้านบาท 

 

บล.โกลเบล็กระบุในบทวิเคราะห์ว่า เดือนพ.ย.มีปัจจัยที่น่าจับตาหลายประเด็นดังนี้

– 1 พ.ย.สหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ต.ค. / ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค./การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ย.

– จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนต.ค.

– ญี่ปุ่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย / ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ (มีกระแสคาดการณ์ว่า BOJ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้นจากเดิมที่ -0.1%)

– 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมคณะกรรมการ FOMC ธนาคารกลางสหรัฐกำหนดแถลงมติอัตราดอกเบี้ยเวลาในไทย 3 พ.ย.(ช่วงเช้า)

– 2 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดขายรถเดือนก.ย. / สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ / ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค. / ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์ก ต.ค.

– อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.

– เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค. / อัตราว่างงานเดือนต.ค.

– ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.

– 3 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ / ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. / ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. / ดัชนีภาคการบริการเดือนต.ค.

– อียูเปิดเผยอัตราว่างงานยูโรโซนเดือนก.ย.

– จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการจีนเดือนต.ค.

– 8 พ.ย. กำหนดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

– 30 พ.ย. กำหนดประชุมโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

Back to top button