5 หุ้นตัวท็อป “อสังหาฯ” กำไร Q3 โตแรง! แถมปันผลงาม-ชูยีลด์สูงสุด 11%

5 หุ้นตัวท็อป “อสังหาฯ” กำไร Q3 โตแรง! แถมปันผลงาม-ชูยีลด์สูงสุด 11%


ช่วงนี้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ทยอยประกาศงบไตรมาส 3/2563 ดังนั้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจกลุ่มหุ้นอสังหาริมทรัพย์ โดยอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.กรุงศรี

โดยครั้งนี้เน้นไปที่หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2563 เติบโตโดดเด่น และจ่ายปันผลสูง ซึ่งประกอบไปด้วย AP, ORI,SC,NOBLE และ LH  โดยบทวิเคราะห์ได้ระบุข้อมูลไว้ดังนี้

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  คาด SET Index จะแกว่งตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นทั่วโลกในกรอบ 1,200-1,215 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากปรับฐานแรงสัปดาห์ก่อน โดยกลุ่มพลังงานคาดหนุนตลาดจากราคาน้ำมันที่รีบาว์แรง

อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่และการ Lockdown ของหลายประเทศคาดทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2563 จำกัดขึ้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศประเด็นการเมืองเริ่มอ่อนลง แต่ยังต้องติดตามหากมีการยกระดับการชุมนุม ยังคงเน้นกลยุทธ์เลือกการลงทุนในกลุ่ม Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการจำเป็น เช่น อาหารเครื่องดื่ม สื่อสารฯ อสังหาฯ โรงพยาบาล โดยเฉพาะหุ้นที่คาดมีกำไรไตรมาส 3/2563 เติบโตโดดเด่น

โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/2563 กลุ่มอสังหาฯ 8 บริษัทเติบโต 43% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อาทิ AP, ORI, SC, NOBLE ขยายตัวทั้ง เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ ช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนจากยอดโอนที่เร่งขึ้นตามการโอนคอนโดใหม่และยอดขายแนวราบที่ดี Gross Marginดีขึ้นหลังชะลอการทำโปรโมชัน ทำให้กำไรปกติ 9 เดือนแรกปี 2563 คิดเป็น 71% ของประมาณการทั้งปี

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/2563 คาดเร่งขึ้นทำระดับสูงสุดของปี ราคาหุ้นกลุ่มเทรดบน PE เพียง 7.5 เท่า พร้อมปันผล 7-8% ยังเลือก AP (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) และ ORI (ราคาเป้าหมาย 9 บาท) เป็น Top Pick

 

สำหรับบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท คาดกำไร ไตรมาส3/2563 ทำ New High +16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +127% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนจากยอดโอนของทั้ง AP และ JV ที่เร่งตัวจากแนวราบที่ดีและเริ่มโอน 2 คอนโดใหม่ ส่วน Margin ดีขึ้นหลังชะลอทำโปรโมชั่น

คาดกำไรปี 2563 โต 31% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนก่อนชะลอ -16% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนปีหน้าจากฐานสูง แต่ด้าน Valuation ยังถูกมาก ซื้อขายที่ 2021PER เพียง 5-6 เท่าและคาดให้ Dividend Yield 7%

 

ด้านบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI คาดกำไรปกติ 3Q20 +1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, + 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนจากส่วนแบ่งกำไร JV ที่เร่งขึ้นเด่น ตามแผนการโอนคอนโดใหม่ 1 แห่ง ชดเชยยอดโอนของ ORI ที่อ่อนลง ขณะที่โมเมนตัม ไตรมาส4/2563 คาดเร่งขึ้นต่อแตะระดับสูงสุดของปี จากการโอนคอนโดใหม่ถึง 5 โครงการ คงประมาณการกำไรปกติปี 2020 +4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ +11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2021 ราคาหุ้นเทรดบน PE ปี 2563-2564 เพียง 5.4 เท่า พร้อมปันผลสูง 7.5-8% ต่อปี ยังเลือกเป็น Top Pick แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปีหน้า 9 บาท

 

ส่วนบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  SC คาดกำไรปกติไตรมาส3/2563 โต 31% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +47.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโดดเด่นกว่าที่เคยคาดตามการเร่งขึ้นของยอดโอนจาก Backlog ที่มีและยอดขายแนวราบที่ดี ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard และเทรดบน 2021PER เพียง 5.5 เท่า พร้อม Dividend Yield 7.3% คงราคาเป้าหมายที่ 2.80 บาท แนะนำ ซื้อ

 

ส่วนบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE คาดกำไรปกติ ไตรมาส3/2563 +141% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +14,933% ช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนจากยอดโอนที่เร่งขึ้นจากการเริ่มโอนคอนโดใหม่ NOBLE BE19 เบื้องต้นคาดกำไรปกติปีนี้ -4% ช่วงเดียวกันของปีก่อนและฟื้นตัว +8% ช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2564 ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินใน ไตรมาส 4/2563 และขายโครงการ Commercial เข้ากอง REIT ในปีหน้า หากอิง PER 6x ใกล้เคียงกลุ่มอสังหาฯ จะได้ราคาเป้าหมาย 23 บ. ราคาหุ้นเทรดบน PER เฉลี่ย 5.4x พร้อมคาดให้ปันผลสูง 10-11% ต่อปี (คาด 2H20 Yield 5%) แนะนำ ซื้อ

 

ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  กลุ่มอสังหาฯ Preview งบไตรมาส 3/2563 คาดกำไรสุทธิฟื้นตัวแรง เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังหดตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน: เบื้องต้นคาดกลุ่มอสังหาฯ จะมีกำไรสุทธิรวมประมาณ 6.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 66% เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังหดตัว 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิที่ฟื้นตัวแรง เทียบไตรมาสก่อนหน้า

โดยมาจากฐานที่ค่อนข้างต่ำเนื่องจากไตรมาส 2/63 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์โดยตรง แนวโน้มมองภาพธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วแต่การฟื้นตัวยัง เปราะบางเนื่องจากมีปัจจัยที่ยังมีความไม่แน่นอน ยังให้น้ำหนัก Neutral และเลือก LH AP เป็น Top picks

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button