EA อัดงบฯ 6 พันลบ. ลุยรถ EV-แบตเตอร์รี่! ประเดิมรับรายได้ธุรกิจใหม่ตั้งแต่ Q2/64

EA อัดงบฯ 6 พันลบ. ลุยรถ EV-แบตเตอร์รี่! ประเดิมรับรายได้ธุรกิจใหม่ตั้งแต่ Q2/64


นายศรุต เรียวรักษา ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (Manager IR) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA นำเสนอข้อมูลผลประกอบการงวดปี 2563 และแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเปิดเผยถึงภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 5.20 พันล้านบาท เทียบกับปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 6.08 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รายได้ปี 2563 อยู่ที่ระดับ 1.72 หมื่นล้านบาทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยสัดส่วนธุรกิจไบโอดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2562 เนื่องจากรัฐบาลมีการสนับสนุนให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาขายมีการปรับตัวขึ้นส่งผลให้ Gross Profit margin เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจพลังงานลมได้รับผลกระทบจากกระแสลมที่ค่อนข้างอ่อน ขณะที่ความเข้มแสงค่อนข้างน้อย ส่งผลต่อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามธุรกิจพลังงานทดแทนได้เริ่มเห็นสัญญานการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2563

ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีการขยายธุรกิจสู่แบตเตอร์รี่ลิเทียม และยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจชาร์ทไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีการจ้างงานบุคลากรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีค่าตัดจำหน่าย และค่าเสื่อมราคา

สำหรับแผนงานในปี 2564 นั้น บริษัทจะตั้งเป้าขยายไปยังธุรกิจใหม่ของบริษัทเป็นหลัก และจะได้เห็นการเติบโตจากธุรกิจใหม่ในปีนี้ โดยไตรมาส 2/2564 จะเริ่มมีการรับรู้รายได้เข้ามา

 

ด้าน คุณชลิดา สาธิตวุฒิ หัวหน้าแผนก-ฝ่ายสื่อสารองค์กร (Supervisor IR) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทฯ ในปี 2564 ตั้งงบการลงทุนปี 2564 จำนวน 6,100 ล้านบาท โดยหลักๆ จะนำมาพัฒนาปรับปรุงธุรกิจโรงไฟฟ้า 2,787 ล้านบาท และใช้สำหรับธูรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ราว 1,506 ล้านบาท ธุรกิจแบตเตอร์รี่ 1,223 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ขนาด 50GWh นั้น ในเฟสแรกขนาด 1GWh ได้มีการก่อสร้างโครงสร้างอาคารเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรบางส่วน คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตเฟสแรกได้ในไตรมาส 2/2564

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีแรก คาดการณ์ว่ารายได้หลักจะยังมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้า ทั้งโซลาร์ พลังงานลม และไบโอดีเซล ขณะที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะมีรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามา โดยจะเห็นภาพชัดในภาพรวมทั้งปี

“ในช่วงแรกของปี 2564 รายได้ของบริษัทจะมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นหลัก และจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 เป็นต้นไป และจะเห็นการเติบโตของธุรกิจใหม่ได้เต็มปีในปี 2565”  คุณชลิดา กล่าว

สำหรับแผนการส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้ากับทางสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิ นั้น ยังคงเดินหน้าตามแผนต่อไป แต่ทางจะมีการเลื่อนการส่งมอบออกไป เพื่อให้แท็กซี่สุวรรณภูมิมีความพร้อมเสียก่อน ส่วนแผนส่งมอบรถบัสโดยสารไฟฟ้าของ EA คาดการณ์ว่าจะสามารถส่งมอบได้ในช่วงกลางปีนี้

 

 

 

 

Back to top button