“นายก” ล้อมวงกินข้าว ให้กำลังใจทหาร สั่งแก้ปมเวลา เปิด-ปิดด่าน “ไทย-กัมพูชา” เหลื่อมกัน

นายกฯ “แพทองธาร” ลงพื้นที่ครั้งแรกหลังปมพิพาทชายแดน ที่กาบเชิง จ.สุรินทร์ มอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจทหาร สั่งแก้ปัญหาเวลาเปิดด่านเหลื่อมกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นครั้งแรก ที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ

นายกรัฐมนตรี ได้มอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพล ณ ฐานปฏิบัติการกองกำลังสุรนารี และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับคณะ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมที่โรงพยาบาลกาบเชิง เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนและมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน โดยมีรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่า เวลาการเปิด-ปิดด่านระหว่างไทยและกัมพูชายังไม่ตรงกัน โดยฝั่งไทยเปิด 08.00-15.00 น. ส่วนฝั่งกัมพูชาเปิด 09.00-16.00 น. ซึ่งทำให้เกิดความไม่สะดวกในการค้าชายแดน

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้หารือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อปรับเวลาให้ตรงกัน อำนวยความสะดวกด้านเศรษฐกิจและการเดินทางข้ามแดนของประชาชนทั้งสองประเทศ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังด่านพรมแดนศุลกากร จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง เพื่อพบปะเจ้าหน้าที่และตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน พร้อมพูดคุยกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยของประชาชนในทุกจังหวัดชายแดนอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี ยังได้เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านสกล หมู่ 8 ต.ตะเคียน เพื่อตรวจเยี่ยมสถานที่หลบภัยที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยราชการ ทั้งกองทัพและกระทรวงมหาดไทย ทั้งด้านวัสดุ อุปกรณ์ และทรายป้องกันแรงระเบิด

พร้อมทั้งสอบถามความเป็นอยู่ของประชาชน และความพร้อมของบังเกอร์และสถานที่หลบภัย พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สนับสนุนประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ได้แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่มาดูแลด้วยตนเอง

Back to top button