“อนุทิน” ยอมรับ “เนวิน–กรรมการบริหาร” ภูมิใจไทย ถูก กกต. เรียกแจงคดีฮั้วเลือก สว.
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับได้รับหมายจาก กกต. เรียกชี้แจงคดีฮั้วเลือก สว. มีชื่อ “เนวิน-กรรมการบริหารพรรค” รวมอยู่ด้วย เตรียมนัดนายกฯ หารือ แต่ปฏิเสธตอบชัดกรณีปรับ ครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้รับจดหมายจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตนมีส่วนร่วมในการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. โดยจดหมายดังกล่าวส่งไปยังบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ยังจำไม่ได้ว่าเรียกไปรับทราบในวันใด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพร้อมชี้แจง และได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ถูกเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายเนวิน และนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เข้าใจว่ามีการเน้นไปที่กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยหลายคน แต่ทุกคนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่
สำหรับข้อสังเกตว่าคดีนี้มีเป้าหมายเพื่อเขย่าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ รองนายกฯ อนุทิน ตอบทันทีว่า “แค่นี้ยังมองไม่ออกอีกเหรอว่ามันเป็นเรื่องการเมืองหรือเปล่า”
ส่วนประเด็นที่หมายเรียกออกมาพร้อมกับกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะความพยายามทวงคืนเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า “ถ้าจะมองว่าเกี่ยว มันก็เกี่ยวกันทั้งหมด แต่เราไม่ได้ทำผิดก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร…เราทำตามกฎหมาย”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่หมายเรียก แต่เป็นเพียงจดหมายแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งพร้อมไปรับฟังเพื่อเตรียมชี้แจงตามขั้นตอน โดยต้องรอฟังคำแนะนำจากทีมกฎหมาย เนื่องจากตนเองเป็นวิศวกร ไม่ใช่นักกฎหมาย
สำหรับการพบปะกับนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า “กำลังนัดอยู่” แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นการปรับ ครม. หรือไม่
เมื่อถูกถามว่า หากมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มองว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า การปรับ ครม. เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล และหากมีการหารือเรื่องตำแหน่ง ต้องเป็นการพูดคุยระหว่างหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เฉพาะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรี
ส่วนคำถามที่ว่า ประเด็นนี้จบไปแล้วตั้งแต่ “ดีลช็อกมิ้นต์” หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า “ผมก็ยังยืนยันเช่นนั้นอยู่”