คดีฮั้วสว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มิ.ย.68) ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาใน 3 คดีสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ศ. 2567 โดยเห็นว่า ไม่เข้าเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 สรุปทั้ง 3 คดี คดีที่ 1 เรื่องพิจารณาที่ ต.52/2568 (ต่อเนื่องจาก ต.48/2567) นายภิญโญ บุญเรือง ยื่นคำร้องขอให้ศาลทบทวนคำสั่งเดิมที่ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ศาลเห็นว่า เป็นการ “ขออุทธรณ์คำสั่งศาล” ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับ และไม่เป็นไปตามมาตรา 212, 213 และ 231 ของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งคำร้องไม่มีข้อเท็จจริงหรือเหตุใหม่เพิ่มเติม จึงมีมติไม่รับไว้พิจารณา คดีที่ 2 เรื่องพิจารณาที่ ต.53/2568 นายธนาโชค ชววิทยภิญโญ กล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าละเว้นหน้าที่ ทำให้ผู้สมัครบางรายสมยอมกันลงคะแนน ศาลเห็นว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจกฎหมาย หากผู้ร้องเห็นว่า เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ ผู้ร้องอาจใช้สิทธิทางศาลได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรคสามได้ ส่วนกรณีขอให้ศาลสั่งให้การเลือก สว. เป็นโมฆะ ไม่เข้าเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณา คดีที่ 3 เรื่องพิจารณาที่ 15/2568 (ต่อเนื่องจากเรื่องพิจารณาที่ 11/2568) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะ ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยสมาชิกภาพของพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และคณะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (7) ประกอบมาตรา 185 (1) หรือไม่ และขอให้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ศาลเห็นว่า เป็นกรณีที่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ซึ่งเปิดให้เฉพาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.), สว. หรือ กกต. จำนวนหนึ่งยื่นได้เท่านั้น ขณะที่ผู้ร้องอ้างสถานะ “คณะบุคคล” ตามมาตรา 7(5) และ 41 ของ พ.ร.ป. ซึ่งไม่ใช่ช่องทางที่ให้สิทธิตามกฎหมาย ศาลจึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณาเช่นกัน เอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ www.constitutionalcourt.or.th