
ครม. ชดเชยดอกเบี้ย–ปล่อยกู้ 6 พันลบ. หนุนชาวไร่อ้อยแก้ PM2.5
ครม. เห็นชอบโครงการสินเชื่อชาวไร่อ้อย วงเงิน 6,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยช่วยลดภาระเกษตรกร หนุนลงทุนแหล่งน้ำ–เครื่องจักรการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการเผาอ้อย สาเหตุ PM2.5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ส.ค. 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ โครงการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ระหว่างปี 2568–2570 เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการแหล่งน้ำและจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท ตลอด 3 ปี (ปีละ 2,000 ล้านบาท) โดยมีโรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้เต็มวงเงิน
เงื่อนไขการกู้เงินกำหนดว่า หากกู้เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบการให้น้ำ และปรับพื้นที่ปลูกอ้อย ต้องชำระคืนภายใน 6 ปี ส่วนการกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรต้องชำระคืนภายใน 8 ปี โดยรัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยแทนผู้กู้ โดยเกษตรกรรายบุคคลชดเชย 3% ต่อปี กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์ชดเชย 2% ต่อปี ขณะที่กรณีสินเชื่อเพื่อซื้อรถบรรทุก พ่วงบรรทุก และอากาศยานไร้คนขับ รัฐบาลจะไม่ชดเชยดอกเบี้ย
ครม.ยังอนุมัติกรอบงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. จำนวน 945 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น มีน้ำเพียงพอในช่วงเพาะปลูก และลดภาระต้นทุนทางการเงิน พร้อมทั้งส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยหันมาใช้เครื่องจักรกลในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวแทนการเผาอ้อย ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาฝุ่นละออง PM2.5