ฝุ่น PM 2.5 ฟุ้งทั่วไทย! กทม.หนักสุด เดินหน้า 90 วันอันตราย คุมสุขภาพเข้ม

ค่าฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศยังพุ่งสูง หลายจังหวัดเข้าสู่ระดับสีแดง–ส้ม ขณะที่กรุงเทพฯ เผชิญค่าฝุ่นเกินมาตรฐานต่อเนื่องหลายเขต อากาศนิ่งกดการระบายมลพิษ เดินหน้าคุมเข้มรถควันดำตามแผน “90 วันอันตราย”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.68) นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ว่าข้อมูลจากจิสด้า (GISTDA) ณ เวลา 06:00 น. คุณภาพอากาศทั่วประเทศหลายพื้นที่เข้าสู่ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบ 10 จังหวัดอยู่ในระดับสีแดง และ 26 จังหวัดอยู่ในระดับสีส้ม

ขณะที่กรุงเทพมหานคร สถานการณ์ PM2.5 น่าเป็นห่วง พบหลายพื้นที่อยู่ในระดับสีแดงและสีส้ม รวม 49 เขต อาทิ หนองแขม บางบอน บางแค ทวีวัฒนา บางขุนเทียน ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน จอมทอง บางกอกใหญ่ ธนบุรี ห้วยขวาง ราษฎร์บูรณะ บางพลัด และพระนคร โดยค่าฝุ่นเกินมาตรฐานต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า คาดว่าในช่วง 3 ชั่วโมงข้างหน้า PM2.5 จะยังอยู่ในระดับสูงในหลายเขตเมือง เนื่องจากอากาศนิ่งและการระบายอากาศต่ำ

พล...อิทธิพร โพธิ์ทอง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจควันดำ ณ ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย ภายใต้แผนปฏิบัติการ “90 วันอันตราย ลดฝุ่นควัน” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และกองบังคับการตำรวจจราจร เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568

รัฐบาลกำหนดให้กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยรถดีเซลกว่า 3 ล้านคัน มีสัดส่วนเป็นต้นเหตุ PM2.5 ถึง 57% ขณะเดียวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 – มีนาคม 2569 มีลักษณะอากาศนิ่ง ทำให้การระบายมลพิษเป็นไปอย่างล่าช้า จึงปรับลดค่ามาตรฐานควันดำจากเดิมไม่เกิน 30% เหลือไม่เกิน 20% มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

แผนปฏิบัติการ “90 วันอันตราย” (1 ันวาคม 2568 – 28 ุมภาพันธ์ 2569) ประกอบด้วย การตั้งจุดตรวจริมถนนในกรุงเทพฯ วันละ 14 ชุด และชุดตรวจของกรมการขนส่งฯ ในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล วันละ 16 ชุด ส่วนต่างจังหวัดดำเนินการตรวจเข้มในเมืองหลักโดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัด ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รถที่พบควันดำจะถูกสั่งห้ามใช้ทันที และต้องแก้ไขภายใน 15 วัน หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษปรับตามกฎหมายทั้งตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)รถยนต์ และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก

ผลการตรวจจับระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2568 พบว่า มีการตรวจรถทั่วประเทศ 85,731 คัน เฉพาะในกรุงเทพฯ 62,763 คัน แบ่งเป็นรถตาม พ.ร.บ.ขนส่งฯ 29,117 คัน และรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ 33,646 คัน พบควันดำเกินมาตรฐาน 656 คัน และแก้ไขแล้ว 291 คัน หรือคิดเป็น 44%

กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมและภาคเอกชน เปิดให้บริการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ พร้อมส่วนลดค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ และค่าแรงสูงสุด 50% ขณะที่ผู้ลงทะเบียน Green List Plus กับกรุงเทพมหานครจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ที่จอดรถฟรีในห้างสรรพสินค้ากลุ่ม Central, The Mall, Lotus คูปองโดยสาร BTS และส่วนลดซื้อ พ.ร.บ. และประกันภัยผ่าน AIS

ขอความร่วมมือให้ประชาชนตรวจสอบและบำรุงรักษารถ ไม่ปล่อยควันดำ เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ในช่วงฤดูเสี่ยง พร้อมแนะนำให้ใส่หน้ากากทุกครั้งเมื่อออกนอกอาคาร หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที

กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือให้หน่วยงานและสถานประกอบการพิจารณาทำงานที่บ้าน (Work From Home) ในวันที่ 4 ธันวาคม 2568 หลังค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 35 เขตจากทั้งหมด 50 เขตของกรุงเทพฯ

Back to top button