
“สมาพันธ์แพทย์” เตือนปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพ ชี้ รพ.ไทยเผชิญวิกฤต
สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปฯ ออกแถลงการณ์เตือนว่า ระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตเชิงโครงสร้าง ส่งผลให้โรงพยาบาลทั่วประเทศประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง ทรัพยากรลดลง และคุณภาพบริการถดถอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ธ.ค. 2568) นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เปิดเผยแถลงการณ์ สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย เรื่อง ความจำเป็นเร่งด่วนในการปฏิรูปโครงสร้างระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อหยุดยั้งวิกฤตโรงพยาบาลไทย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha”
แถลงการณ์ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุจากการบริหารจัดการของโรงพยาบาล แต่เป็นผลจากโครงสร้างและกติกาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุนและภาระงานจริง
โรงพยาบาลต้องให้บริการผู้ป่วยแบบไม่มีเพดาน ขณะที่ได้รับงบประมาณในลักษณะจำกัดและต่ำกว่าต้นทุนจริง อีกทั้งยังมีการปรับเกณฑ์การจ่ายเงินย้อนหลัง ส่งผลให้โรงพยาบาลจำนวนมากกลายเป็นลูกหนี้ในทันที แม้เกณฑ์ดังกล่าวจะถูกยกเลิกแล้ว แต่การชดเชยยังต้องรอการจัดสรรงบกลางของรัฐบาล ทำให้สถานการณ์สภาพคล่องยังคงตึงตัว
สมาพันธ์แพทย์ฯ ระบุต่อว่า การถกเถียงเฉพาะประเด็นอัตราจ่ายต่อ AdjRW ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้ หากกติกาและระบบบริหารจัดการยังไม่สอดคล้องกับต้นทุนจริงของหน่วยบริการ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุถึงความทับซ้อนของบทบาทระหว่างผู้ซื้อบริการและผู้ให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยกองทุนทำหน้าที่ทั้งกำหนดกติกา จ่ายเงิน ตรวจสอบ และลงโทษ ขณะที่หน่วยบริการไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดกติกา แต่ต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงจากผลกระทบที่เกิดขึ้น
สำหรับโครงสร้างคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) สมาพันธ์แพทย์ฯ ระบุว่า มีความต่อเนื่องของบุคคลในคณะกรรมการมาเป็นเวลานาน และขาดตัวแทนจากหน่วยบริการที่ปฏิบัติงานจริง ส่งผลให้การกำหนดนโยบายและกติกาไม่สอดคล้องกับสภาพการทำงานของโรงพยาบาล และสร้างผลกระทบสะสมต่อระบบบริการสุขภาพ
ทั้งนี้ สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย เสนอแนวทางปฏิรูปเชิงโครงสร้าง 7 ข้อ เพื่อฟื้นฟูระบบสุขภาพของประเทศ อาทิ การจำกัดบทบาทสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ทำหน้าที่ผู้ซื้อบริการอย่างชัดเจน, การปรับระบบจ่ายเงินให้สะท้อนต้นทุนจริงและยุติการปรับกติกาย้อนหลัง, การเร่งรัดจัดสรรงบกลางเพื่อชดเชยผลกระทบจากเกณฑ์ย้อนหลัง รวมถึงการแยกเงินเดือนและค่าตอบแทนบุคลากรออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว
แถลงการณ์ ระบุอีกว่า งบกองทุนควรถูกใช้เพื่อการดูแลผู้ป่วยเป็นภารกิจหลัก พร้อมเสนอให้การกำกับคุณภาพบริการและการติดตามสภาพคล่องของโรงพยาบาล เป็นบทบาทของกระทรวงสาธารณสุขหรือองค์กรกำกับอิสระ เพื่อป้องกันความขัดกันของผลประโยชน์ และสร้างความโปร่งใสให้กับระบบ
สมาพันธ์แพทย์ฯ ระบุในตอนท้ายว่า ระบบสุขภาพของประเทศไม่ควรถูกปล่อยให้อยู่ภายใต้ความเสี่ยงจากกติกาที่ไม่เป็นธรรม และยืนยันจะติดตามและเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่มีเสถียรภาพ โปร่งใส และยั่งยืนสำหรับประชาชน