
“ดาวโจนส์” ทะยานกว่า 500 จุด หลังเจรจาการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นคืบหน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกหลังจากข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นเพิ่มความหวังการเจรจากับพันธมิตรอื่น ๆ เช่น EU และจีน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายในวันพุธ (23 ก.ค.68) ด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากความคืบหน้าในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 45,010.29 จุด เพิ่มขึ้น 507.85 จุด หรือ +1.14%
- ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,358.91 จุด เพิ่มขึ้น 49.29 จุด หรือ +0.78%
- ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,02 จุด เพิ่มขึ้น 127.33 จุด หรือ +0.61%
การขยายตัวของดัชนีหลักทั้งสามในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รับแรงหนุนจากการคาดหวังว่าข้อตกลงการค้ากับพันธมิตรหลักอย่างญี่ปุ่นจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยคาดว่าอาจมีการลงนามข้อตกลงเพิ่มเติมก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มาตรการภาษีตอบโต้รอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มมีผลบังคับใช้
แม้ว่าการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) อินเดีย และพันธมิตรรายใหญ่อื่น ๆ จะมีความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา แต่มีรายงานล่าสุดระบุว่าข้อตกลงกับ EU เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
สำหรับ จีน, นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเจรจาการค้ารอบที่ 3 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายเวลาสงบศึกภาษีศุลกากรและขอบเขตการหารือ โดยการพักรบทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะสิ้นสุดในวันที่ 12 สิงหาคม 2568
นอกจากนี้อีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด คือ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัท เทสลา (TSLA) หลังปิดตลาดในวันพุธ ซึ่งแม้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยทั้งในส่วนรายได้และกำไร แต่บริษัทยืนยันว่า รถยนต์รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยา จะยังคงเข้าสู่สายการผลิตตามแผนในปี 2568