
“หุ้นยุโรป” ปิดทรงตัว! นลท. จับตา “บจ.” ทยอยแจ้งงบ Q2 – ประเมินผลกระทบภาษี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว นักลงทุนรอดูผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ ที่ทำให้บริษัทรถยนต์และสินค้าหรูเริ่มส่งสัญญาณปรับขึ้นราคา ขณะนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มธุรกิจยุโรปมีทิศทางฟื้นตัวหลังข้อตกลงภาษีสหรัฐฯ–อียู
ตลาดหุ้นยุโรปปิดการซื้อขายในแดนทรงตัวเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.68) ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Adidas, Porsche และ Aston Martin ส่งสัญญาณว่าอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าในตลาดสหรัฐฯ เพื่อลดแรงกดดันจากต้นทุนภาษีนำเข้า ขณะที่นักลงทุนต่างจับตารายงานแนวโน้มธุรกิจรอบล่าสุดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากถือเป็นชุดงบไตรมาสแรกที่เผยแพร่หลังจากภาวะความไม่แน่นอนด้านการค้าครอบงำตลาดในช่วงที่ผ่านมา
- ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 550.24 จุด ลดลง 0.12 จุด หรือ -0.022%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,861.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด หรือ +0.059%
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,262.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.85 จุด หรือ +0.19%
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,136.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.62 จุด หรือ +0.0068%
หุ้นกลุ่มรถยนต์และสินค้าหรู ยังได้รับแรงกดดันจากแนวนโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Mercedes-Benz ที่เผยผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกัน ธนาคาร UBS รายงานผลประกอบการลดลง ส่วน HSBC กลับมีกำไรเพิ่มขึ้นเหนือคาด
แม้จะมีแรงกดดันระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์โดยรวมยังคงคาดว่า สถานะทางการเงินของบริษัทในยุโรปจะทยอยฟื้นตัว หลังจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปเหลือ 15% ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดด้านการค้า และลดความเสี่ยงของการปะทะเชิงนโยบายในระยะข้างหน้า