“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 580 จุด ขาดรับคาดการณ์ “เฟด” ลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้งปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ เมื่อ 4 กรกฎาคม 2568 ดัชนีหลักทั้งสามขยับขึ้นแรง นำโดย Nasdaq ที่ทะยานเกือบ 2% รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. หลังตัวเลขจ้างงานเดือนกรกฎาคมออกมาต่ำกว่าคาด

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,173.64 จุด เพิ่มขึ้น 06 จุด หรือ +1.34%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,329.94 จุด เพิ่มขึ้น 93 จุด หรือ +1.47%
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 21,053.58 จุด เพิ่มขึ้น 45 จุด หรือ +1.95%

แรงซื้อกระจุกในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Nvidia, Microsoft และ AMD ช่วยผลักดัน Nasdaq ขึ้นแรง ขณะที่นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อรายงานตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แสดงการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 100,000 ตำแหน่ง ขณะอัตราว่างงานขยับขึ้นแตะ 4.2%

ด้านดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้บริโภคที่มีฐานกว้าง อาทิ Walmart และ Caterpillar ซึ่งขยับขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มพลังงานก็ขยับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบโลก ท่ามกลางความหวังว่า Fed จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายเร็วขึ้น

ข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อโอกาสที่ Fed จะเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ย โดยตลาดสัญญาล่วงหน้าให้น้ำหนักมากกว่า 80% ต่อความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งยังหนุนความเชื่อมั่นในตลาด โดยเฉพาะหุ้น Idexx Laboratories ที่พุ่งกว่า 27% หลังรายงานกำไรดีกว่าคาด

นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs และ Barclays ประเมินตรงกันว่า Fed มีแนวโน้มเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกันยายน และอาจลดต่อเนื่องอีก 2–3 ครั้งภายในสิ้นปี หากเศรษฐกิจยังชะลอตัว และเงินเฟ้ออยู่ในกรอบควบคุม

ทั้งนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชุดสำคัญในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคม ซึ่งมีกำหนดประกาศในวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2568 รวมถึงรายงานการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง