ดาวโจนส์พุ่ง 260 จุด! ขานรับ “เฟด” ลดดอกเบี้ยครั้งแรกปี 68 สวนทางหุ้นเทคลงต่อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คึกคัก! ดัชนีดาวโจนส์ทะยานบวก หลังเฟดประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมและการเงิน ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงขายทำกำไร ฉุด S&P 500 และ Nasdaq ปิดลบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (17 ก.ย.68) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 260 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของปีนี้ พร้อมส่งสัญญาณอาจปรับลดเพิ่มเติมอีกในระยะถัดไป

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,018.32 จุด เพิ่มขึ้น 42 จุด หรือ +0.57%
  • ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,600.35 จุด ลดลง 41 จุด หรือ 0.09%
  • ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,261.33 จุด ลดลง 63 จุด หรือ 0.33%

เฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ช่วง 4.00–4.25% ซึ่งถือเป็นการลดครั้งแรกของปีนี้ สร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดการเงินว่า ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจจะปรับตัวลดลง ส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น การเงินและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ JPMorgan Chase, Bank of America และ Citigroup ที่ปรับตัวขึ้น หลังประกาศลดอัตรา prime rate ตามการปรับดอกเบี้ยของเฟด

ขณะที่หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ผู้ผลิตเครื่องจักรและธุรกิจขนส่ง ได้แรงซื้อจากมุมมองว่าต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจะช่วยหนุนการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อดังกล่าวถูกหักล้างบางส่วนด้วยแรงขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยี นักลงทุนบางส่วนเลือกขายหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้ากดดันให้ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดอ่อนตัว

หุ้นสำคัญที่ถ่วงตลาดได้แก่ Nvidia ร่วงกว่า 2% หลังมีรายงานว่าจีนสั่งห้ามบริษัทท้องถิ่นซื้อชิป AI ของบริษัท, Tesla อ่อนตัวราว 1.6% จากแรงขายทำกำไรและความกังวลด้านการแข่งขัน, Uber ดิ่งลงกว่า 5% หลังมีข่าวคู่แข่งอย่าง Lyft จับมือ Waymo เดินหน้ารถไร้คนขับ และ Oracle อ่อนแรงตามแรงขายในกลุ่มคลาวด์ แม้ยังมีความสนใจในธุรกิจ AI

นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ เพื่อติดตามทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ตามคาด! “เฟด” ลดดอกเบี้ย 0.25% “พาวเวลล์” ส่งซิกลงต่อ หลังแรงงานสหรัฐอ่อนแรง

Back to top button