
หุ้นยุโรปปิดบวก รับหุ้น “เฮลท์แคร์” พุ่งนิวไฮรอบ 17 ปี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ด้านดัชนี STOXX 600 พุ่งแรงสุดในรอบกว่า 2 เดือน หุ้นเฮลท์แคร์พุ่งนำตลาดนิวไฮรอบ 17 ปี หลัง Pfizer บรรลุข้อตกลงลดราคายากับรัฐบาลสหรัฐฯ นักลงทุนยังจับตาผลกระทบชัตดาวน์รัฐบาลกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธ (1 ต.ค.68) ปิดบวก นำโดยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ หลังบริษัท Pfizer บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการลดราคายาบางรายการ ซึ่งช่วยคลายความไม่แน่นอนด้านภาษีและการกำกับดูแล ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 564.62 จุด เพิ่มขึ้น 6.44 จุด หรือ +1.15% (ข้อมูลจาก STOXX Ltd.) ขณะที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ ปรับตัวบวกเช่นกัน ได้แก่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,966.95 จุด เพิ่มขึ้น 71.01 จุด หรือ +0.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,113.62 จุด เพิ่มขึ้น 232.90 จุด หรือ +0.98% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,446.43 จุด เพิ่มขึ้น 96.00 จุด หรือ +1.03%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์พุ่งขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวรายวันที่แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551 หุ้นบริษัทยาอื่น ๆ ทยอยบวกแรง อาทิ Ambu +9.3%, Sartorius +9.5%, Merck +10%, Roche +8.6% และ AstraZeneca +11.2% ขณะที่ Novartis ขยับขึ้น 3.9% หลังสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติยารับประทานสำหรับรักษาโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังบางชนิด
ด้านเศรษฐกิจ ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า กิจกรรมการผลิตในยูโรโซนกลับเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนกันยายน ขณะที่เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจากราคาบริการสูงขึ้น แม้ต้นทุนพลังงานชะลอตัวลง ส่วนภาคการผลิตของอังกฤษหดตัวเร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน และยังพบการหดตัวในฝรั่งเศสและเยอรมนีเช่นกัน
ตลาดหุ้นลอนดอนแม้ยังได้แรงหนุนจากหุ้นเฮลท์แคร์ แต่หุ้น Tate & Lyle ร่วงลงกว่า 13% หลังบริษัทเตือนว่ากำไรและรายได้ประจำปีอาจลดลง สะท้อนว่าปัจจัยเฉพาะบริษัทบางรายยังสร้างแรงกดดัน แม้ภาพรวมตลาดยุโรปอยู่ในแดนบวก