“ดาวโจนส์” ปิดลบ 387 จุด นักลงทุนหมดหวัง “ลดดอกเบี้ย” ธ.ค.นี้ กังวลฟองสบู่  AI

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.68) ผันผวนอย่างรุนแรง ก่อนปิดตลาดลดลง หลังจากที่ช่วงต้นมีการปรับขึ้นชั่วคราว โดยจุดพลิกสำคัญเกิดจากการขับเคลื่อนจากผลประกอบการของ Nvidia และความกังวลเกี่ยวกับภาพรวมของหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะในธุรกิจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งส่วนหนึ่งของแรงขายเกิดจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ฟองสบู่ AI” ที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 45,752.26 จุด ลดลง 386.51 จุด หรือ -0.84%
• ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,538.76 จุด ลดลง 103.40 จุด หรือ -1.56% 
• ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,078.05 จุด ลดลง 486.18 จุด หรือ -2.15%

การกลับตัวของราคาหุ้น Nvidia ฉุดตลาดหุ้นโดยรวมให้ปรับตัวลดลง หลังจากที่ผู้ผลิตชิปรายนี้ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งคาดการณ์ยอดขายในไตรมาสที่สี่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 5% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลับปิดตัวลดลง 3% ในที่สุด

แม้เจนเซน ฮวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia จะยืนยันว่า ความต้องการชิป Blackwell รุ่นปัจจุบัน “สูงเกินคาด” แต่ซีอีโอของ Nvidia ยังคงปฏิเสธแนวคิดเรื่องฟองสบู่ AI โดยชี้ว่า ไม่พบสัญญาณการเติบโตที่เกินจริงในตลาด

ด้านตัวเลขการจ้างงาน ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนที่ล่าช้า เนื่องจากการสถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาล และพักการเผยแพร่ข้อมูลจากรัฐ พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างงานเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ (ราว 50,000 ตำแหน่ง) ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% จาก 4.3% ในเดือนก่อนหน้า

จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม “ลดลงอย่างเห็นได้ชัด” โดยเครื่องมือ CME Group FedWatch แสดงว่า โอกาสอยู่ที่ประมาณ 30‑40 % เท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยด้านลบต่อความคาดหวังของนักลงทุนที่หวังว่าจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง