
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 185 จุด รับแรงหนุนคาด “เฟด” ลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 185 จุด รับแรงหนุนความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่แรงซื้อกลับเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม หนุนบรรยากาศลงทุนวอลสตรีทฟื้นตัวเป็นบวกทั้งสามดัชนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนวันอังคาร (2 ธ.ค.68) ดัชนีหลักทั้งสามกลับมาปิดบวก ขานรับความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมวันที่ 9–10 ธันวาคมนี้ หลังนักลงทุนให้น้ำหนักสูงขึ้นต่อโอกาสการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะเดียวกัน หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมฟื้นตัว ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 47,474.46จุด เพิ่มขึ้น 13 จุด หรือ +0.39%
- ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,829.37จุด เพิ่มขึ้น 74 จุด หรือ +0.25%
- ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 23,413.67 จุด เพิ่มขึ้น 75 จุด หรือ +0.59%
แรงซื้อกลับมาเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้น Apple, Nvidia และ Intel ปรับตัวขึ้นตามทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) ที่เริ่มทรงตัว ขณะที่ราคาบิตคอยน์ ดีดกลับเสริมบรรยากาศเชิงบวกในสินทรัพย์เสี่ยง
ด้านหุ้น Boeing พุ่งขึ้นแรง หลังบริษัทส่งสัญญาณว่า การส่งมอบเครื่องบินรุ่น 737 และ 787 จะปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้า ส่งผลให้หุ้น Boeing เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของดัชนีดาวโจนส์ในรอบวัน
ชุดข้อมูลเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยในช่วงก่อนการประชุมเฟด ซึ่งจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป ทั้งนี้ ตลาดให้น้ำหนักสูงถึงกว่า 85–90% ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในนัดประชุมเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดฟื้นตัว แต่แรงซื้อยังไม่กระจายเท่าเทียมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นพลังงานและวัสดุบางตัวเผชิญแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังผันผวน ทำให้ต้องติดตามความต่อเนื่องของแรงซื้อในช่วงถัดไป

