SET ทรงตัว CPF นำทีม หุ้นกำไร Q3 เริ่ด!

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวหลังตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในกรอบจำกัด โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว นอกจากนี้การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 45 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรในระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้า และการปรับ FTSE Rebalance เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยพยุงตลาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีความไม่แน่นอน หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัว หลังตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในกรอบจำกัด โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว นอกจากนี้การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 45 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรในระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้า และการปรับ FTSE Rebalance เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยพยุงตลาด

การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 ออกมาดี และมีประเด็นบวก หรือเลือกลงทุนในหุ้นความเสี่ยงต่ำและมีเงินปันผล หุ้นเด่นเลือก และ CPF-ILINK-BJC-TPBI-GLOBAL-JASIF-DIF และ BEM

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.ย.) มองการปรับสูงขึ้นของ SET ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเป็นเพียง Technical Rebound และเป็นการ “เก็งกำไร” กลุ่มหุ้นที่จะถูกเพิ่มน้ำหนักของดัชนี FTSE ปลายสัปดาห์นี้ ประเมินแนวต้านที่ 1,460/1,474 จุด ขณะที่ภาพระยะสัปดาห์ยังมีความกังวลต่อความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้นจาก 1) การขึ้นดอกเบีย Fed 2) SET อยู่ในโซน Valuation สูงที่ PE 16 เท่า

ขณะที่การ “Rebalance” ของ FTSE จะเป็นปัจจัยหนุนการ Rebound ของ SET ระยะสั้นต่อไป โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK และ SCB แต่ถ้าพิจารณาในเชิงพื้นฐาน กลับมองการปรับสูงขึ้นของกลุ่มธนาครเป็นโอกาสในการ “ลดพอร์ต” มากกว่า

สำหรับพอร์ตหลักแนะนำ “จำกัด” พอร์ต ต่อเนื่อง โดยอาจ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้นที่กำไรไตรมาส 3/59 ออกมาดี หรือมีประเด็นบวก อย่าง 1) BJC กำไรไตรมาส 3/59 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง 2) CPF ราคาไก่ปรับสูงขึ้น กำไรไตรมาส 3/59 เติบโตสูง ได้ผลดีเงินบาทอ่อน 3) ILINK ได้งาน Sub Station มูลค่า 560 ล้านบาท ปรับพื้นฐานขึ้นเป็น 30 บาท

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.ย.) คาด SET วันนี้แกว่งตัวบวกแคบๆ ก่อนการรีบาลานซ์ดัชนี FTSE ซึ่งจะมีผลวันพรุ่งนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นหลักๆ ในต่างประเทศซื้อขายในกรอบจำกัดเมื่อคืนนี้ ประกอบกับหุ้นพลังงานอาจรับแรงกดดันจากราคาน้ำมันสหรัฐฯ ที่ลงต่อ จึงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะขึ้นได้ไม่แรงนัก

ด้านปัจจัยภายใน กนง. ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปี 59 เล็กน้อย เป็นสัญญาณบวกต่อภาพระยะปานกลางของตลาด อย่างไรก็ตาม สำหรับการเทรดดิ้งสั้นให้ระวังความเสี่ยงที่ฟันด์โฟลว์จะชะลอในต้นสัปดาห์หน้า แนะหุ้นเก็งกำไร TPBI (เป้าพื้นฐาน 15.00 บาท), GLOBAL (เป้าพื้นฐาน 17.00 บาท) กรณีที่รับความเสี่ยงได้น้อย เน้นปันผล แนะนำ JASIF, DIF

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.ย.) คาด SET จะผันผวนในกรอบจำกัด โดยช่วงเช้าเช้าตลาดจะยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของ กนง. และยังได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้าเนื่องจากมองโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้ามีน้อยลง ขณะเดียวกันการปรับ FTSE Rebalance เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยพยุงตลาด

อย่างไรก็ตาม ด้วยดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 45 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมาอาจจะทำให้มีแรงขายทำกำไรกดดันดัชนี ส่วนภาพรวมการลงทุนรายอุตสาหกรรมคาดกลุ่มพลังงานจะยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ทำให้แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มพลังงานในไตรมาสที่ 3 อาจจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา

กลุ่มธนาคารน่าจะยังได้ผลบวกจากการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของกนง.ซึ่งสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมาจะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BEM (เป้า 9.00 บาท) รอข่าวดีสัปดาห์หน้าเจรจาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายและรอยต่อ 1 สถานี

Back to top button