กูรูชี้เป้า 13 หุ้นเด็ด SET แกว่งตัวกรอบแคบ รอผลตัดสินคดีจำนำข้าว

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่ผลการเมืองในประเทศ เรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้  และความเสี่ยงเงินบาทที่อ่อนค่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ การลงทุนเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.32 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้มีข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลงหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ขณะที่ผลการเมืองในประเทศ เรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้  และความเสี่ยงเงินบาทที่อ่อนค่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ การลงทุนเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดี หุ้นเด่นเลือก MINT, ERW, AMATA, WHA, PTT, GFPT, HTECH, SAWAD, ATP30, GUNKUL HANA, UV และ SALEE

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (24 ส.ค.) คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐฯมากนัก แต่ยังต้องรอผลการเมืองในประเทศ จากเรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่าด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจจะ Underperform กว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ การที่ดุลการค้าของไทยงวดเดือนก.ค.พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 27 เดือน แม้ว่าการส่งออกจะดีก็ตาม แต่ทำให้เห็นว่าจากนี้ไปการส่งออกของไทยน่าจะชะลอตัว และเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงไปถึงระดับ 33.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ  โดยเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะเป็นตัวกดดันตลาดฯด้วย อย่างไรก็ตาม หากตลาดฯฟื้นตัวขึ้นก็คงอยู่ในกรอบจำกัด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568 – 1,577 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) การขาดดุลการค้าในเดือน ก.ค.เป็นผลจากการนำเข้าทองคำที่สูงผิดปกติ และอาจส่งผลต่อการอ่อนค่าของเงินบาทระยะสั้น (HANA ได้ผลดีจากบาทอ่อนมากที่สุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ประเมินแนวต้าน 46.25/49.00 บาท) ขณะที่แม้นักลงทุนมีแนวโน้มชะลอการลงทุนปลายสัปดาห์ รอ 1) คำตัดสินศาลฯกรณีจำนำข้าว และ 2) ถ้อยแถลง Fed และ ECB คืนวันศุกร์นี้ แต่คงมุมมองบวกต่อภาพ SET ระยะสัปดาห์ต่อไป

แนะนำ 1) “ซื้อ” กลุ่มโรงแรมฯ MINT (TP 48) และ ERW (TP 6) ก่อนเข้าสู่ช่วง high season ใน 4Q17 รวมไปถึงโอกาสที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพิ่มในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้านี้ 2) “ซื้อ” กลุ่มนิคมฯ มองผลดีจากการเร่งออกกฎหมาย EEC ปลายปีนี้ และยอดขายที่ดินที่เร่งตัวขึ้น 2H17 ชอบ AMATA (TP 23) WHA (TP 4) และ 3) “เก็งกำไร” PTT ผลดีจากค่าการกลั่นที่ปรับสูงขึ้นผ่านบริษัทลูก ขณะที่ผลการดำเนินงาน 2Q17 ออกมาดีกว่าคาด หนุน consensus ปรับประมาณการกำไรขึ้น ขณะที่ภาพระยะยาวได้ผลดีจากการนำ PTTOR เข้าตลาด

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.) คาดดัชนีแกว่งในกรอบบแคบ เพื่อรอตัวแปรสำคัญ โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนจะชะลอการลงทุนก่อนทราบผลการตัดสินคดีจำนำข้าว และประชุม Fed Conference ในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ขณะที่ตลาดเองไม่ได้มีปัจจัยในเชิงบวกเข้ามาในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน : ภาพรวมเป็นชะลอการลงทุน หรืออาจลดการถือหุ้นขนาดใหญ่เพื่อลดความเสี่ยงยกเว้นแต่หุ้นเหล่านั้น จะมีปัจจัยเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มผลประกอบการ หรือข่าวเฉพาะตัว ซึ่งจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนจับเป็นประเด็นมาเล่นกันในช่วงนี้

หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ GFPT, HTECH, SAWAD, ATP30 และ GUNKUL หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : HANA, UV และ SALEE

Back to top button