ดักเก็บ 15 หุ้นเก็ง Outperform ตลาดSET อ่อนแอ-ไร้ปัจจัยใหม่-แนวรับ 1,400

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังไร้ปัจจัยบวกหนุนอย่างชัดเจน ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่คาดว่าเบาบางต่อเนื่อง ตามเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วกว่าคาดและตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี รวมถึงวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.04 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 34.81 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังไร้ปัจจัยบวกหนุนอย่างชัดเจน ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่คาดว่าเบาบางต่อเนื่อง ตามเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วกว่าคาดและตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี รวมถึงวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่  ADVANC, SCC, IFEC, BJCHI, STEC, CK, SEAFCO, INTUCH, TRUEIF, EA, IRPC, HANA, TIPCO, KCE, SCC

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์( 27 ก.ค.) คงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “กลาง” วันที่ 15 พร้อมกับประเมิน SET INDEX แกว่งระหว่าง 1,430-1,450 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง เพราะภาวะการลงทุนทั่วโลกขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน อีกทั้งนักลงทุนต่างรอฟังความเห็นของเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจ เพื่อประเมินช่วงเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในช่วงใดของปีนี้

ขณะที่ ณ ระดับ SET INDEX ที่ 1,438.08 จุด ซื้อขาย PER15-16 เท่ากับ 14.91x และ 12.99x ตามลำดับ เป็นบริเวณ -1SD ของค่าเฉลี่ย 1Yr และ 2Yr Forward PER ย้อนหลัง 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นหลัก เริ่มมี Valuation ที่ต่ำจนน่าสนใจสำหรับการทยอยสะสมในระยะกลางถึงอย่าง จึงแนะนำให้นักลงทุนระยะกลางเริ่มทยอย Bottom Fishing

แต่อย่างไรก็ตาม ทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรวดเร็วในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากพิจารณา YTD เงินบาทอ่อนค่าสุดเป็นลำดับที่ 4 ของเงินสกุลหลักในเอเชีย เท่ากับ -5.78% โดยเงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่าสุดในเอเชีย -8.40%

ขณะที่เงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ทั้ง 5 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2 ในวันศุกร์ (ยกเว้นตลาดหุ้นเวียดนาม) แม้ว่าจะไม่ได้หนานแน่นมากนัก แต่ปัจจัยดังกล่าว เป็นสิงที่ประเมินถึงมุมมุมองของนักลงทุนต่างชาติต่อภาวะการลงทุนในไทยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนระยะกลาง กลับมาเลือกสะสมหุ้นในลักษณะ Bottom Fishing เน้นที่ประเด็นพื้นฐานการลงทุน และ/หรือ ผลตอบแทนปันผลทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4.0% เป็นเกณฑ์การเลือกหุ้นลงทุน ภายใต้ภาวะการลงทุนที่อ่อนแอในปัจจุบัน”

Accumulative Buy: ADVANC / SCC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ค.) ว่า SET ถอยลงมาที่เขตแนวรับ 1,430 จุดอีกครั้ง ความเสี่ยงในการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของค่าเงินบาทยังคงต้องระวังอยู่ อาจรอสัญญาณการรีบาวด์ได้ที่เขตแนวรับ 1,420-1,430 จุด…SET จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นถ้าสามารถผ่าน 1,450 และ 1,456 จุดขึ้นไปได้ แนะนำเพียงเลือกเล่น Selective Buy พร้อม Stoploss อย่างเคร่งครัด

แนะนำ “Selective” หรือ “เลือกซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาด ได้แก่หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องมือหลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ) สื่อสาร (ปันผลสูง ประมูล 4G ในเดือน พ.ย.) และพลังงานทางเลือก อย่าง STEC CK SEAFCO INTUCH TRUEIF (ประกาศจ่ายปันผล 0.2365 บาท/หุ้น XD วันที่ 4 ส.ค.) และ EA ต่อไป แม้ SET มีแนวโน้ม Sideways Down ไปที่แนวรับ 1,430/1,410 จุด จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม

“เก็งกำไร” TIPCO ราคาต่ำกว่า NAV 29%: TASCO เป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และถูก Upgrade โดย Consensus ต่อเนื่อง ขณะที่ราคากำลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 24.6 บาท เป็นโอกาสในการ “เก็งกำไร” TIPCO (ไม่อยู่ใน Coverage ของ TNS) ที่ถือหุ้น 24.1% ใน TASCO โดยราคาปัจจุบันของ TIPCO มี Discount จาก NAV ที่ถือหุ้นใน TASCO อยู่ 29%…เป้าหมายทางเทคนิค 13.3/14.1/15.0

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ลบต่อ แต่คาดทางลงจะจำกัดแถว 1,400 ต้นๆ

คาดดัชนีวันนี้แกว่งลงต่อ เนื่องจากต่างชาติมีแนวมีแนวโน้มปรับพอร์ตขายหุ้นไทยอีก ตามเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วกว่าคาดและตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ดี ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดส่งออกมิ.ย. (consensus คาด -7.0% YoY ) และในปลายสัปดาห์นี้ คาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมและดัชนีการบริโภค/ลงทุนยังอ่อนแอ ส่งผลให้ KGI คาด กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นต่อเงื่อนเวลาการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก สำหรับระดับ downside ของดัชนีนั้น คงมุมมองที่ 1,407 จุด (อิง PE 16.0 เท่าบน EPS คำนวณสิ้นไตรมาส 3/2558 ที่ 88.0 จุด)

หุ้นเด่นวันนี้  รับเสี่ยงได้ เก็งกำไร KCE, SCC

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ค.) SET มีโอกาสลงไปที่ 1,430-1,425 จุด (อิง Ex PER 15.5 เท่า เป้าหมายสิ้นปีนี้) ยังชื่นชอบหุ้นที่กระทบจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวน้อย BTS(FV@B12), IRPC([email protected]) และเลือก HANA(FV@B48) เป็น Top pick เพราะราคาหุ้นลงลึก จนมี upside 45% และ คาดหวังเงินปันผล 5.4% เงินบาทที่อ่อนค่าอาจจะทำให้กำไรดีกว่าประมาณการเดิม 6-12%

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ค.)  ตลาดหุ้นไทยปิด -0.46% ต่างชาติยังเป็นผู้ขายสุทธิหลัก -1.7 พัน ลบ. และ Short ใน Index Futures จำนวน 276 สัญญา  สัปดาห์นี้ติดตามรายงานงบ Q2/58 ของ SCC โดย Consensus คาด +5.4% (QoQ), +36%(YoY) , รายงานการส่งออก มิ.ย.58 คาด -4.8% (YoY) และผลการประชุม FOMC

กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังไร้ปัจจัยบวกหนุนอย่างชัดเจน โดยติดตามความคืบหน้าการปรับ ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งคาดจะส่งผลบวกทางจิตวิทยาเล็กน้อย ฝ่ายวิจัยประเมินแนวรับ 1,400 – 1,420 จุด แนะนำทยอยซื้อหุ้นกลุ่มหลักบริเวณ 1,400 ต้นๆ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น IFEC, BJCHI

Back to top button