SET รอบบ่ายปรับลงต่อสะสมหุ้น ICT ปันผลเด่น

SET เช้าซึมตัว สวนทางตลาดภูมิภาค โดยตลาดบ้านเรารีบาวด์แค่ช่วงต้นเ จากนั้นเจอแรงขายออกมาจนดัชนีติดลบ คาดเป็นผลจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว หากไม่มีนโยบายใหม่จากภาครัฐออกมากระตุ้จ อาจทำให้ดัชนีไหลลงต่อ ช่วงบ่ายคาดยังไม่ฟื้นแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,396 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (29 ก.ค.) เช้าซึมตัวสวนทางตลาดภูมิภาค โดยตลาดบ้านเรารีบาวด์แค่ช่วงต้น จากนั้นเจอแรงขายออกมาจนดัชนีติดลบ คาดเป็นผลมาจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว หากไม่มีนโยบายใหม่ๆ จากภาครัฐออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ อาจอึมครึมและปรับตัวลงต่อ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยยังปรับลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,396 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415 จุด พร้อมแนะนำนักลงทุนให้ switch ไปที่หุ้นในกลุ่ม ICT เนื่องจากมีการจ่ายปันผลในอัตรา 5-6% และมีความชัดเจนในการประมูล 4G

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัว สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ต่างรีบาวด์ในระยะสั้น แต่ตลาดบ้านเรารีบาวด์แค่ช่วงต้นเท่านั้น ก็เจอแรงเทขายออกมาจนดัชนีติดลบ ส่งผลให้เช้านี้ Sentiment ตลาดบ้านเราดูอ่อนแอและแย่กว่าเอเชีย

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะภาคการส่งออกมาที่ติดลบมากกว่าคาด และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาแย่ หากไม่มีนโยบายใหม่ๆ จากภาครัฐออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ อาจอึมครึมและปรับตัวลงต่อ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย BLS คาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/58 จะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 1/58 ประมาณ 6% และในไตรมาส 3/58 ปกติก็จะเป็นช่วง Low season และกำไรมักจะต่ำสุดในรอบปี ดังนั้น ระยะสั้นจึงหาปัจจัยบวกไม่เจอ

ส่วนปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ต่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ว่าจะมีสัญญาณยืนยันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้หรือไม่ หากเป็นไปตามคาดจะทำให้การปรับพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงยังคงดำเนินการต่อไป และน่าจะได้เห็นการปรับพอร์ตก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยยังปรับลงต่อ โดยให้แนวรับ 1,396 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415 จุด พร้อมแนะนำนักลงทุนให้ switch ไปที่หุ้นในกลุ่ม ICT เนื่องจากมีการจ่ายปันผลในอัตรา 5-6% และมีความชัดเจนในการประมูล 4G รวมถึงหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ค. ) แม้ตลาดหุ้น Dow Jones ฟื้นตัวกว่า 1% เมื่อคืนนี้ แต่การฟื้นตัวของ SET ยังเป็นไปอย่างจำกัด โดยแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะ KBANK-BBL-SCB คงกดดันดัชนี ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามบ่ายนี้ได้แก่ ผลการดำเนินงาน SCC ที่ถ้าออกมามากกว่า Consensus ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาด

ขณะที่ SET ต้องกลับไปยืนได้เหนือ 1,434 จุดให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อให้เกิด Technical Rebound อย่างมีเสถียรภาพ ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5.0-7.5% ในปี 58-59 และผลการดำเนินงานมีความมั่นคงสูงอย่าง TRUEIF-BTSGIF-TREIT-INTUCH-ADVANC (มีปัจจัยบวกจากการประมูล 4G เดือน พ.ย.นี้ด้วย)

อีกทั้ง PTTGC แม้ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มผันผวนตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ มากกว่ากว่า Infrastructure Fund แต่ด้วยแนวโน้ม Olefin Spread สูง, แนวโน้มการเติบโตกำไรกว่า 60% ปีนี้, และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.3-6.1% ในปี 58-59 จึงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 82.0 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,073.27 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

WICE มูลค่าการซื้อขาย 867.62 ล้านบาท ปิดที่ 3.10 บาท ลดลง 0.74 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 737.85 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 677.85 ล้านบาท ปิดที่ 2.20 บาท ลดลง 0.08 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 480.05 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button