เงินเฟ้อ ก.พ. ลดลง 1.17% หดตัว 12 เดือนติด “พาณิชย์” ชี้อานิสงส์มาตรการลดค่าครองชีพภาครัฐ

“กระทรวงพาณิชย์” เผยเงินเฟ้อ ก.พ. ลง 1.17% ทำสถิติหดตัว 12 เดือนต่อเนื่อง ชี้ปัจจัยหลักมาจากมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ ค่าน้ำ-ค่าไฟ


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.พ.64 อยู่ที่ 98.88 ลดลง -1.17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มส่งผลต่อไทยในเดือนมี.ค.63 ส่งผลให้ CPI เฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ลดลง -0.75%

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือนก.พ.64 อยู่ที่ 100.39 เพิ่มขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ Core CPI เฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.12%

“การหดตัวของ CPI ในเดือนนี้ มีปัจจัยหลักจากมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปา ซึ่งจะมีระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่ก.พ.-มี.ค.64 ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และผักสด ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น” นายภูสิตกล่าว

ส่วนราคาสินค้าและบริการในหมวดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังทรงตัว และเคลื่อนไหวสอดคล้องกับปริมาณผลผลิตและความต้องการบริโภคของประชาชน ยกเว้น น้ำมันเชื้อเพลิง มีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ตามการสูงขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก

สำหรับดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เดือนก.พ.64 ลดลง -0.43% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และลดลง -0.63% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.64 ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เดือนก.พ.64 ลดลง -1.60% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และลดลง -1.10% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.64

โดยในเดือนก.พ.64 พบว่ามีสินค้าและบริการสำคัญที่ราคาเพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค.64 รวม 123 รายการ เช่น น้ำมัน และแก๊สโซฮอล์, น้ำมันพืช, ส้มเขียวหวาน และองุ่น เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง มี 123 รายการเช่นกัน ได้แก่ ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ผักบุ้ง, ผักกาดขาว, ไข่ไก่ และข้าวสารเจ้า เป็นต้น

ส่วนสถานการณ์ด้านการผลิตและบริโภคเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว สอดคล้องกับการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อัตราการใช้กำลังการผลิตที่กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อัตราการว่างงาน และรายได้เกษตรกรที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการต่าง ๆ ของรัฐที่ช่วยลดค่าครองชีพ เพิ่มกำลังซื้อ และกระตุ้นเศรษฐกิจยังออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อตั้งแต่เดือนมี.ค. จะเริ่มติดลบน้อยลง และจะมีแนวโน้มเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนเม.ย. หรือตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป

“คาดการณ์ว่า สถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการในระยะต่อไป จะมีแนวโน้มขยายตัวตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไป” ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 64 อยู่ในกรอบ 0.7-1.7% หรือเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.2%

 

Back to top button