ซื้อ 3 หุ้นปันผลเด่น! ช่วงดัชนีฯพักฐานSET บ่ายมีโอกาสหลุดแนวรับ 1,400 จุด

SET เช้านี้ปรับตัวลงคล้ายตลาดภูมิภาค ส่วนหนึ่งจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาเป็นเชิงลบ แต่ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมีผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน ส่วนกลุ่มแบงก์เริ่มเข้าสู่การประกาศงบฯจึงมี Sell On Fact เช่นเดียวกับกลุ่มอสังหาฯหลังเล่นเก็งมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐไปแล้ว บ่ายคาดดัชนีฯแกว่งในกรอบ เชื่อยืนเหนือแนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (13 ต.ค.) เช้านี้ปรับตัวลงคล้ายตลาดภูมิภาค ส่วนหนึ่งจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาเป็นเชิงลบ แสดงให้เห็นเศรษฐกิจยังยังชะลอตัว แต่ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมีผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน ส่วนกลุ่มแบงก์เริ่มเข้าสู่การประกาศงบฯจึงมี Sell On Fact เช่นเดียวกับกลุ่มอสังหาฯหลังเล่นเก็งมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐไปแล้ว

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีฯแกว่งในกรอบ เชื่อยืนเหนือแนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” JASIF, DIF, และ BTSGIF

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงคล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่อยู่ในแดนลบ ส่วนหนึ่งคงมาจากเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาเป็น Negative ทั้งตัวเลขการส่งออกและนำเข้า โดยเฉพาะการนำเข้าลดลงมากถึง 10% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

ส่วนตลาดบ้านเรา มีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งหุ้นในกลุ่มแบงก์เริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/58 เมื่อไม่มีปัจจัยใหม่ทำให้เกิด Sell On Fact ส่วนกลุ่มอสังหาฯเช่นกันหลังจากปรับตัวขึ้นมามากแล้วในการเก็งมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่เสนอเข้าครม.ในวันนี้ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แล้วอาจทำให้เกิด Sell On Fact ตามมา และเมื่อตลาดฯยังไม่มีปัจจัยผลักดันให้ขึ้นไปได้อีก ทำให้นักลงทุนเลือกขายทำกำไรออกมาก่อน

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯแกว่งในกรอบ แต่ไม่น่าตกใจเพราะเชื่อว่ายังยืนเหนือระดับ 1,400 จุดซึ่งเป็นแนวรับในวันนี้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ต.ค.) SET มีแนวโน้ม “พักฐาน” ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ซึ่งประเมินแนวรับ 1,390-1,400 จุด หลังจากปรับสูงขึ้นแรง 70 จุด ในช่วงสัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งการพักฐานรอบนี้เป็นโอกาส “ซื้อ” สำหรับนักลงทุนที่พลาดการซื้อในรอบก่อนหน้านี้ ประเมินเป้าหมายปลายปี 2558 ที่ 1,500 จุด

ขณะที่ การฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก ส่งผลให้มีการ “ปรับพอร์ต” จากหุ้น Yield Plays ทีเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความปลอดภัยสูง (Defensive) มาเป็นกลุ่มหุ้นที่มี Beta สูงขึ้น ทำให้เราเห็นการปรับลดลงของกลุ่มหุ้นกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน 3-9% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

โดยเฉพาะ BTSGIF, DIF และ JASIF ซึ่งมองเป็น “โอกาส” ซื้อ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลสูง 6.1-7.4% ต่อปี รวมถึงจ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส และผลการดำเนินงานมีความผันผวนต่ำ โดยแนะนำ “ซื้อ” ทั้ง JASIF, DIF, และ BTSGIF (เป็น Leasehold) ที่ปรับลดลงในช่วงก่อนหน้านี้

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ต.ค.) ดัชนี SET ช่วงเช้าปิดลบตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลง ขณะที่กลุ่มโลหะอ่อนแรงลงหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลการนำเข้าที่ร่วงลงมากกว่าคาดการณ์ ซึ่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า ด้านสำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า การส่งออกของจีนในเดือนก.ย.ลดลง 1.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนส.ค.

ขณะที่การนำเข้าเดือนก.ย.ร่วงลง 17.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนส.ค.ที่ลดลง 14.3% ทั้งนี้ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 96.1% จากเดือนก่อน ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในเดือนก.ย. ปรับตัวลง 8.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งปรับตัวลงน้อยกว่าส.ค.ที่หดตัวลง 9.7%

สำหรับปัจจัยในปะเทศ คือ การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำเสนอมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ที่ประชุมครม.พิจารณา โดยจะมีการลดค่าจดจำนองและค่าโอน เนื่องจากช่วงนี้ผู้บริโภคชะลอการโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อรอมาตรการกระตุ้นที่จะออกมา รวมทั้งมาตรการสินเชื่อผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการระยะสั้นในช่วง 6 เดือน

แนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่าย มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบ 1,400 จุด  หลังเกิดสัญญาณขายใน MACD ในกราฟรายชั่วโมง พร้อมแท่งเทียนปิดตัวต่ำกว่าเส้น EMA 15 Hr. แสดงถึงสัญญาณขาย มีแนวโน้มปรับตัวลงทดสอบ 1,402/1,400 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

SCI มูลค่าการซื้อขาย 4,550.36 ล้านบาท ปิดที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,675.90 ล้านบาท ปิดที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,077.29 ล้านบาท ปิดที่ 265.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

TIPCO มูลค่าการซื้อขาย 955.25 ล้านบาท ปิดที่ 23.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 568.91 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button