SET สัปดาห์นี้ Sideways ขาดปัจจัยใหม่หนุน-จับตาตัวเลขส่งออกไทยต.ค. 23 พ.ย.นี้

“โนมูระฯ”ชี้ SET สัปดาห์นี้ Sideways ขาดปัจจัยใหม่หนุน-จับตาตัวเลขส่งออกไทยต.ค. 23 พ.ย.นี้ ชู TIDLOR,JMT,BEC หุ้นเด่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (22-26 พ.ย.64) มานำเสนอพร้อมปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยครั้งนี้อ้างอิงข้อมูลจาก บล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ดัชนี SET “Sideways” โดยแนวต้านอยู่ที่ 1,658-1,672 จุด แนวรับ 1,632-1,620 จุด โดยแนะจับตาตัวเลขส่งออกไทยเดือนต.ค.ซึ่งจะรายงานวันที่ 23 พ.ย.โดย Consensus คาดโต 14.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ 17.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งจับตา Flash Manufacturing PMI :ตัวเลขเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ ซึ่งจะรายงาน 23 พ.ย. ของสหรัฐฯคาดที่ 59.0 โตจาก 58.4 ในเดือนก่อน ส่วนยุโรป คาดที่ 57.5 จาก 58.3 คาดเป็นผลจากการกลับมาระบาดรอบใหม่ของโรค Covid-19 ส่วนอังกฤษ คาดที่ 57.4 จาก 57.8

พร้อมทั้งรายงาน FOMC Minutes วันที่ 24 พ.ย. สำหรับการประชุมรอบ 2-3 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง FED ประกาศปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 1.5 หมื่นล้าน       เหรียญฯตามคาด โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งจะทำให้โครงการ QE สิ้นสุดลง ในช่วงกลางปี 2565 นอกจากนี้ได้มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับเศรษฐกิจหลายด้าน จึงแนะจับตา FOMC Minutes ครั้งนี้อาจจะมีมุมมองเพิ่มเติม

ด้าน MSCI Minimum Volatility Index ดัชนีผันผวนต่ำของโลก MSCI AC World Minimum Volatility Index ประกาศออกมาล่าสุด AOT ถูกถอดออกจากคำนวณ (คิดเป็นเม็ดเงิน 11 ล้านเหรียญฯ) แต่ยังอยู่ในดัชนี MSCI EM Minimum Volatility Index ขณะที่ BEM ถูกลดน้ำหนักใน MSCI EM Minimum Volatility Index (คิดเป็นเม็ดเงิน 18 ล้านเหรียญฯ) ทั้งหมดจะมีผล 30 พ.ย.นี้

ขณะทั่ผ่านพ้นการรายงานผลประกอบการ ไตรมาส 3/2564 มีกำไรสุทธิรวมทั้งหม.1 แสนล้านบาท +18.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ลดลง 24.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ โตเด่น ได้แก่ กลุ่ม Mining, Steel, Petro, Healthcare, Media ส่วนกลุ่มที่หดตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้า Construction, Insurance, Food, Transport

ด้านกลยุทธ์การลงทุน : แรงกดดันจาก Global Indicators ต่างๆ ทั้งค่าเงินดอลลาร์ Bond Yield เริ่มผ่อนคลาย แต่ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่สัปดาห์นี้จับตาตัวเลขส่งออกไทย และ FOMC Minutes กลยุทธ์แนะนำถือหุ้น 50% คงพอร์ตหลักกลุ่มที่จะ Outperform SET ได้แก่ ได้แก่ โรงไฟฟ้า(GPSC, GULF, BCPG) โรงพยาบาล(BDMS, BH) กลุ่มสื่อสารฯ (ADVANC) ส่งออก(KCE, HANA,TU) โรงกลั่น(TOP, PTTGC)

โดยหุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TIDLOR, JMT, BEC โดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ราคาราคาเป้าหมาย 44 บาท เข้า MSCI Small Cap มีผล 30 พย + คาดเข้า SET50 ส่วน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ราคาราคาเป้าหมาย 63 บาท: คาดกำไร ไตรมาส 4/2564 ทำ new high + ลุ้นเข้า กลาง ธ.ค. ด้านบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC แนะนำเก็งกำไร ผลงานปีนี้ Turnaround + Positive surprise bn MSCI Small cap Investment

Back to top button