จุดเข้าทำในตลาดหุ้นไทย??

กระแส “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” สำหรับตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง ฟันด์โฟลว์ ต่างชาติเริ่มกลับมาแล้ว หลังเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ ต่างชาติขายออกมาแล้วทั้งสิ้นกว่า 1.09 แสนล้านบาท ซึ่งช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่โดนถล่มเทของออกมาเยอะที่สุด คิดเป็นเม็ดเงินได้ราว 9.16 หมื่นล้านบาท


–ตามกระแสโลก–

 

กระแส “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” สำหรับตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง ฟันด์โฟลว์ ต่างชาติเริ่มกลับมาแล้ว

หลังเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ ต่างชาติขายออกมาแล้วทั้งสิ้นกว่า 1.09 แสนล้านบาท

ซึ่งช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่โดนถล่มเทของออกมาเยอะที่สุด คิดเป็นเม็ดเงินได้ราว 9.16 หมื่นล้านบาท

โดยในตัวของดัชนีหุ้นไทย หากนับจากสิ้นปี 2557 มาจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ปรับตัวลงมา 148.67 จุด หรือประมาณ 9.93%

แล้วถ้าดูกันแค่ไตรมาส 3 อย่างเดียว ดัชนีหดตัวลง 155.55 จุด คิดเป็นกว่า 10.34% จากสิ้นสุดไตรมาส 2

ตัวเลขเหล่านี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า การเข้า-ออกของเม็ดเงินต่างชาติยังมีผลกระทบสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย

วันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งอยู่ในช่วงกลางๆไตรมาส 3 เป็นวันที่ดัชนีปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ระดับ 1301.06 จุด

ก็ถือว่า สอดคล้องกับตัวเลข เอาต์โฟลว์ ที่เป็นคำตอบได้ดีว่าทำไมดัชนีถึงลงหนักสุดในช่วงเวลาดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้เอง กระแสเรื่อง อินโฟลว์ รอบนี้จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากผู้คนในแวดวงหุ้นทั้งรายเล็กรายใหญ่

แต่ยังไงก็ขอเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งแล้วกันว่า อย่าเพิ่งไว้วางใจอะไรนัก เพราะกระแสเงินที่ไหลเข้ามาครานี้คงอยู่ไม่นานเท่าไหร่

รอบนี้ที่เข้ามาส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผลจากการคงดอกเบี้ยของเฟด เลยทำให้เกิดปรากฏการณ์ย้ายเงินออกจากสหรัฐฯมาเก็งกำไรในตลาดเกิดใหม่ชั่วคราวเท่านั้น

ปรากฏการณ์แบบนี้จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเพียงการเข้ามาลงทุนเพื่อทำกำไรในระยะสั้น หรือจะเรียกว่า Speculative Capital ก็ได้เหมือนกัน

เมื่อไหร่ที่ เจเน็ต เยลเลน ออกมาพ่นน้ำลายเรื่องขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง เม็ดเงินเหล่านี้ก็พร้อมจะไหลกลับบ้านเกิดได้ในทันทีโดยไม่เหลือเยื่อใย

เพราะฉะนั้น การจะเข้าไปอาศัยจังหวะเพื่อสร้างผลกำไรในตลาดหุ้นช่วงนี้ยังสามารถทำได้ และน่าจะทำเช่นนั้นด้วย

เพียงแต่ต้องดูจังหวะจะโคนให้ดี ว่าจะเข้าจะออกช่วงไหน เพราะเกิดไปพลาดท่าเสียทีออกของไม่ทัน มันจะเป็นเรื่องเอาได้

ของแบบนี้ก็เข้าใจนะ ว่ามันเป็นอะไรที่พูดง่ายแต่ทำยากเสียเหลือเกิน

เอาเป็นว่า ถ้าใครจะโหนกระแสไปกับเรื่องแบบนี้ ก็ขอให้มีเป้าหมายของผลตอบแทนที่ชัดเจนแล้วกัน ว่าอยู่ตรงไหนกันแน่

ที่สำคัญต้องรักษาระเบียบวินัยในการลงทุนอย่างเคร่งครัดด้วย ไม่งั้นอาจต้องนั่งรำพึงกับตัวเองว่า “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร”

สูตรคือ เลือกหุ้น ตั้งเป้า ถึงเป้าขาย ผิดคาดตัดใจ รอนานไปอาจช้ำหัวใจได้

ย้ำอีกครั้งว่า ยังไงเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยอยู่วันยังค่ำ จะช้าหรือเร็วต้องดูตัวเลขสหรัฐฯ จีน ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นหลัก

พฤติกรรมแบบ ตีหัวเข้าบ้าน ของต่างชาติ นั้นมีให้เห็นอยู่ร่ำไป

Back to top button