แนะซื้อ 11 หุ้นแจ่ม! ปัจจัยภาครัฐช่วยหนุนSET บ่ายแกว่งแคบ ระวังแรงขายทำกำไร!

SET เช้านี้แกว่งแคบตามกระแสเงินทุนไหลเข้าที่เริ่มนิ่ง แนะให้ติดตามการประกาศงบ Q3/58 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ บ่ายคาดดัชนีฯแกว่งแคบ ให้แนวรับ 1,410-1,415 แนวต้าน 1,430 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (19 ต.ค.) แกว่งแคบ แนะนำให้ติดตามการประกาศงบไตรมาส 3 ปี 58 ของของบริษัทจดเบียนในไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวกและลบ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบต่อ โดยมีแนวรับ 1,410-1,415 แนวต้าน 1,430 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ AOT-CENTEL-MINT-SCC-CK-STEC-UNIQ-SEAFCO-PS-CPALL และ KTC

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบจากทิศทางกระแสเงินทุนไหลเข้าที่เริ่มนิ่งไปในทางอ่อนค่าเล็กน้อย แนะนำนักลงทุนให้ติดตามดูการทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ปี 58 โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา

ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นในช่วงนี้ มองว่าควรจะเป็นการเลือกเล่นหุ้นที่มีแนวโน้มผลกำไรที่ออกมาดี ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีหุ้นไทยแกว่งแคบๆ โดยมีแนวรับ 1,410-1,415 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ต.ค.) SET มีแนวโน้ม “พักฐาน” ระยะสั้น ด้วยปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,430 จุด ขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตาม คงมุมมองการพักฐานของ SET เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้น เพื่อคาดหวังการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคงมองการปรับขึ้นต่อเนื่องเป้าหมายปลายปีที่ 1,500 จุด และมีเป้าหมายระยะสั้นที่แนว Downtrend Line บริเวณ 1,440 จุด 

กลุ่มหุ้นที่ดูน่าสนใจและคาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดยังคงเป็นหุ้นที่ได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง

1.กลุ่มท่องเที่ยวเข้าสู่ช่วง High Season “ซื้อ” AOT-CENTEL-MINT

2.กลุ่มรับเหมาฯและวัสดุก่อสร้าง “ซื้อ” SCC-CK-STEC-UNIQ และ SEAFCO

3.กลุ่มอสังหาฯ “ซื้อ” PS ได้ประโยชน์สูงสูงจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

4.กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศอย่าง CPALL-KTC

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ต.ค.) ตลาดภูมิภาคผันผวน หลังจีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปีนี้ ที่ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผย GDP ไตรมาส 3/58 ขยายตัว 6.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งปรับตัวต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี ตัวเลข GDP ล่าสุดซึ่งลดลงจาก 7% ในไตรมาส 2 ย้ำว่าเศรษฐกิจของจีน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐนั้น กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม  GDP ไตรมาส 3 ปีนี้มีการขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 6.8% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกของจีนในเดือนก.ย.ปรับขึ้น 10.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งขยับขึ้นเล็กน้อยจากอัตราการขยายตัว 10.8% ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่วนอัตราว่างงานเดือนก.ย.ของจีนยืนอยู่ที่ระดับ 5.2% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วง 2 เดือนที่แล้ว และยอดค้าปลีกของจีนในเดือนก.ย.ปรับขึ้น 10.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งขยับขึ้นเล็กน้อยจากอัตราการขยายตัว 10.8% ในเดือนส.ค.ส่วนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2558 ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบรายปี

แนวโน้มตลาดและหุ้นที่น่าสนใจตามเทคนิคบ่ายนี้ ในกราฟ 60 นาที SET ยังปรับตัวลง ทั้งยังมีสัญญาณขายใน MACD โดยเส้นค่าเฉลี่ยตัดลงและปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แนวต้านแรกที่ 1,430 จุด หากยืนเหนือ 1,415 จุด ไม่ได้มีโอกาสปรับตัวลง 1,404 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

SCI มูลค่าการซื้อขาย 824.59 ล้านบาท ปิดที่ 8.20 บาท ลดลง 0.10 บาท

TIPCO มูลค่าการซื้อขาย 822.17 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 590.67 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 573.13 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 555.30 ล้านบาท ปิดที่ 10.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button