
พิชัยลั่น! ไทยไม่โดนภาษี 36% แน่ เร่งปิดดีลสหรัฐ ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. นี้
รองนายกฯ “พิชัย” เผยเจรจาภาษีสหรัฐฯ คืบเกือบจบ ไทยมีโอกาสไม่ถูกเก็บภาษี 36% เหลือเพียงจังหวะการประกาศก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. นี้ เดินหน้ามาตรการช่วยเหลือชายแดน ยืดเวลาภาษีและพักหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (29 ก.ค.68) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาภาษีและการค้ากับสหรัฐอเมริกา (หัวหน้าทีมไทยแลนด์) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการเจรจากับสหรัฐฯ

นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสหรัฐฯ เปิดทางให้มีการเจรจาต่อ เราก็ประสานไปทันที ฝ่ายไทยดำเนินการได้ทันแน่นอน ยืนยันว่าไม่มีข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม แต่จะสรุปข้อตกลงหลักให้ชัดเจน โดยการเจรจาผ่านผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูแลอย่างใกล้ชิด ย้ำการเจรจายังดำเนินการต่อเนื่อง หลายข้อจบแล้ว เหลือบางข้อ พร้อมย้ำชัดเจนว่า “หลักการที่รับได้ยังเหมือนเดิม”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อาจเป็นปัจจัยกดดันการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า เป็นเรื่องหนึ่งที่เราต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ความมั่นคงต้องเดินคู่ขนานไปกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องดูประเทศชาติก่อน ตกลงได้ในสิ่งที่ควรจะเป็น มาตรการทางด้านเศรษฐกิจเราก็เดินไปในสิ่งที่ควรจะเป็น
สำหรับประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเจรจาหยุดยิงทวิภาคีกับกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซีย อาจช่วยให้ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากสหรัฐฯ หรือไม่นั้น
“ผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ เพราะข้อเสนอของไทยมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว และยังเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายพิชัย กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุปะทะล่าสุดในเช้าวันนี้ จะส่งผลต่อการเจรจากับสหรัฐฯ หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ผู้ประเมินสถานการณ์น่าจะเข้าใจว่า แม้จะมีการหยุดยิงแต่สถานการณ์ไม่ได้ยุติลงทันที จึงต้องติดตามต่อไป
สำหรับกำหนดเส้นตายการเจรจาภาษีในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ นายพิชัยระบุว่า หน้าที่ของไทยคือการเสนอและตกลงให้ได้ ส่วนการประกาศจะเป็นดุลยพินิจของสหรัฐฯ
ส่วนภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ไทยจะไม่โดน 36% ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวตอบว่า “ผมคิดว่า เรื่อง 36 เราไม่ควรจะโดนแน่นอน เพียงแต่ว่าจะตกลงและจะประกาศ เมื่อไหร่นั้นคืออีกจังหวะหนึ่ง”
นายพิชัย ยังระบุว่า การประกาศผลจากฝั่งสหรัฐฯ อาจเกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 สิงหาคม หรืออาจเป็นวันที่ 2 ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก และเชื่อว่าดีลภาษีดังกล่าวใกล้จะได้ข้อสรุปเต็มทีแล้ว
- เดินหน้าเยียวยา 7 จังหวัดชายแดน – ขยายมาตรการภาษีและหนี้
นอกจากการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ นายพิชัย ยังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ มาตรการระดับพื้นที่ และมาตรการผ่านสถาบันการเงินของรัฐ
สำหรับมาตรการระดับพื้นที่ กระทรวงการคลังได้อนุมัติเพิ่มวงเงินกองทุนประจำจังหวัดอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปใช้จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างคล่องตัว และสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ หากจำเป็นต้องจัดซื้อจัดจ้างเร่งด่วน สามารถดำเนินการด้วยวิธีพิเศษได้ทันที
ขณะเดียวกันยังสนับสนุนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในลักษณะซอฟต์โลน (soft loan) สำหรับเกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบ
ด้านมาตรการภาษี ได้มีการเลื่อนกำหนดการยื่นแบบและชำระภาษีต่าง ๆ ออกไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 ครอบคลุมภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ เพื่อบรรเทาภาระให้ผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ สถาบันการเงินของรัฐยังได้ออกมาตรการเสริม เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ธอส. วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท ผ่อนชำระ 12 เดือน ดอกเบี้ย 0.60% ต่อเดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ SMEs จาก SME D Bank, EXIM Bank, IBank และธนาคารของรัฐอื่น ๆ โดยมีเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง และผ่อนชำระได้นานขึ้น เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและลดภาระหนี้ในระยะเร่งด่วน