
เคาะแล้ว! ครม.อัดฉีด 1.85 หมื่นล้านหนุนกองทุน BOI–กยศ. กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2
ครม. เห็นชอบงบ 18,500 ล้านบาท หนุนกองทุน BOI–กยศ. เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจล็อต 2 “จุลพันธ์” เผยอยู่ระหว่างพิจารณางบอีก 2.5 หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณรวม 18,500 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ
งบดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ งบกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงิน 10,000 ล้านบาท ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งเน้นสนับสนุนการลงทุนในโครงการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และงบประมาณสำหรับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 8,500 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสให้แก่ผู้กู้รายใหม่ รวมถึงช่วยเหลือผู้กู้รายเดิมที่ยังมีความจำเป็นในการเข้าถึงแหล่งทุนทางการศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของแรงงานในอนาคต
นายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจาก ครม. โดยไม่มีข้อทักท้วง ขณะที่ยังมีงบประมาณส่วนที่เหลืออีกประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงผลจากข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐอเมริกา (ภาษีทรัมป์) ซึ่งล่าสุดไทยได้รับอัตราภาษีศุลกากรที่ระดับ 19% ถือเป็นข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ในภาพรวม แม้ยังมีความจำเป็นต้องดูแลกลุ่มสินค้าเกษตรและภาคส่วนที่ยังเปราะบาง ทั้งนี้ งบประมาณส่วนที่เหลือดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปว่าจะนำมาใช้เพื่อเยียวยาผลกระทบหรือไม่ โดยยังไม่มีกำหนดกรอบอย่างชัดเจนในขณะนี้
ในอีกประเด็นหนึ่ง ที่ประชุม ครม. ยังรับทราบถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งผ่านขั้นตอนความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว แต่อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละหน่วยงาน อาทิ กรมศุลกากร และการจัดทำข้อตกลงรองรับ เพื่อให้เนื้อหาทั้งหมดสอดคล้องกันก่อนเข้าสู่กระบวนการลงนามอย่างเป็นทางการ
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า แม้ถ้อยแถลงร่วมจะผ่าน ครม. แล้ว แต่เนื้อหาบางส่วนอาจเข้าข่ายมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งจำเป็นต้องเสนอให้รัฐสภาพิจารณาโดยรวม จึงอาจต้องรอดำเนินการในขั้นตอนถัดไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อใด เนื่องจากต้องรอความพร้อมของรายละเอียดในแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ ครม. ได้รายงานความคืบหน้าการขอรับจัดสรรและผลการอนุมัติจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 รวมถึงการมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกำกับและติดตามผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ระยะที่ 2 ดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามเป้าหมาย