
“ดร.รุ่ง” ชี้หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 38% เฉลี่ยคนละ 5 แสนบาท วัยทำงานใหม่เสี่ยงสุด
รองผู้ว่าการ ธปท. เผยสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย พบ 38% ของประชากรมีหนี้สิน ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการบริโภค กลุ่มอายุ 22–29 ปีเกินครึ่งมีหนี้ และ 1 ใน 4 กำลังเจอปัญหาชำระหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการเสวนา หัวข้อ “หนี้ครัวเรือนไทย: ความเปราะบางที่ต้องจับตา” เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในงาน Thailand Focus 2025: Beyond the Challenges
ดร.รุ่ง กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนยังเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย โดยพบทั้งในกลุ่มคนเริ่มทำงานและกลุ่มวัยเกษียณ ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการบริโภค ไม่ใช่หนี้เพื่อการประกอบธุรกิจ ผลการวิจัยพบว่า ประชากรราว 38% ของประเทศมีหนี้ครัวเรือนในระบบ โดยมีหนี้เฉลี่ยราว 500,000 บาทต่อคน และหากนับรวมหนี้นอกระบบ ตัวเลขจะสูงกว่านี้มาก
สำหรับกลุ่มคนเริ่มทำงาน หรือ กลุ่มอายุ 22-29 ปี พบว่า 50% มีหนี้ครัวเรือน และ 1 ใน 4 ของคนที่เป็นหนี้กำลังประสบปัญหาการใช้หนี้ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากอาจไม่มีความรู้ด้านการจัดการรายได้ ขาดข้อมูลควบคุมการใช้จ่ายหรือขาดความสามารถจัดการทางการเงิน
ธปท. จึงพยายามให้ข้อมูลเรื่องหนี้ครัวเรือน การจัดการทางการเงินเมื่อมีหนี้มากขึ้น รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน และผลักดัน “ผู้ให้กู้” เปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสกับ “ผู้กู้” มากขึ้น
ดร.รุ่ง กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของหนี้ครัวเรือน คือ เมื่อลูกหนี้ในระบบไม่สามารถชำระหนี้ได้ มักหันไปสร้างหนี้นอกระบบ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ทั้งสองทาง และทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกัน การแก้ปัญหายังติดขัดเพราะ ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องของหนี้นอกระบบ ทำให้ไม่ทราบขนาดหนี้ที่แท้จริง ธปท. จึงมองว่าการนำหนี้นอกระบบเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ เพราะการจะทำเช่นนี้ได้จะเป็นต้องแก้ไขกฎเกณฑ์และข้อกฎหมายหลายประเด็น เพื่อทำให้หนี้นอกระบบสามารถเข้ามาเป็นหนี้ในระบบได้