SET พักฐาน-ไร้ปัจจัยใหม่หนุนชู 13 หุ้นมีจังหวะ Outperform ตลาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่มาหนุน ประกอบกับในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีปรับขึ้นมาแล้ว 180 จุดและยังไม่มีการพักฐานเลย ขณะที่เริ่มมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในอย่าง ปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มกลับมาแย่ลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.07 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.06 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงลงหลังเงินเยนแข็งค่า ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 16 มี.ค.ตามเวลาสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่มาหนุน ประกอบกับในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีปรับขึ้นมาแล้ว 180 จุดและยังไม่มีการพักฐานเลย ขณะที่เริ่มมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในอย่าง ปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มกลับมาแย่ลง

หุ้นเด่นวันนี้เลือก ได้แก่ QH, HANA, ROBINS, SGP, IRPC,CENTEL, MINT, CPN, CENTEL, AAV, COM7, ASEFA, EPG

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มี.ค.) ว่าSET มีแนวโน้ม Sideways ในกรอบ 1,374-1,392 วันนี้ แต่ระยะสัปดาห์มีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” เพิ่มขึ้นด้วยแนวรับ 1,340-1,350 จุด จาก 1) SET ไม่สามารถยืนได้เหนือ Trailing Stop บริเวณ 1,385 จุด เมื่อวานนี้ ประกอบกับยังไม่มีการพักฐานเลยในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา หรือปรับขึ้นมาแล้ว 180 จุด 2) ผิดหวัง BOJ ไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 3) ราคาน้ำมันมีแนวโน้มถูกกดดันหลังอิหร่านมีท่าทีเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเป็น 4 ล้านบาร์เรล/วัน (ปัจจุบันที่ 2 ล้านบาร์เรล/วัน)

แม้ ADVANC (ต้าน 171-173) INTUCH (ต้าน 58.75) อาจมีจังหวะ Rebound ระยะสั้นหลังศาลฯมีคำสั่งคุ้มครองผู้ใช้บริการ 2G ต่อไปจนถึง 14 เม.ย.16 แต่ SET และหุ้นขนาดใหญ่เริ่มมีสัญญาณ “พักฐาน” ทางเทคนิค ทำให้คงแนะนำ “ลดพอร์ต” เพื่อรอซื้อคืนที่แนวรับ 1,340-1,350 จุด ขณะที่หุ้นที่มีมีจังหวะ Outperform ตลาดในช่วงการพักฐานได้แก่:-

1. หุ้นราคาต่ำกว่า NAV มากอย่าง QH และ Turnaround Play อย่าง HANA ROBINS SGP IRPC รวมถึงโรงแรม CENTEL MINT

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16มี.ค.) ว่า ในตลาดหุ้นไทยเองตอนนี้ก็ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่เริ่มมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในอย่าง ปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มกลับมาแย่ลง

ดัชนี SET ขึ้นมาสูงและเริ่มแพงขึ้น หากมามองดูว่ากลุ่มไหนที่ยังพอโตได้ในช่วงนี้ จากการปรับขึ้นค่า EPS ของหุ้นจากนักวิเคราะห์หรือ ค่า Earning revision ratio เป็นบวก ของหุ้นใน SET 100 มีเพียง 28 บริษัท จะอยู่ในกลุ่ม ธนาคารเล็กชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ทั้งหมด (โดยเฉพาะ HANA) โยงท่องเที่ยว พลังงาน โรงพยาบาล สื่อสาร หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับพอสมควรแล้ว หลังการประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่า FED คงจะพูดในทำนองเดิม คือ ยังมีแนวโน้มในการขึ้นดอกเบี้ยและจำนวนครั้งในการขึ้นจะแปรผันตามภาวะเศรษฐกิจ หากเป็นอย่างคาดตลาดคงไม่ตอบสนองในเชิงบวกมาก

ดังนั้นทิศทางดัชนี SET ในช่วงสั้นๆนี้จะแกว่งตามราคาน้ำมัน โดยวันนี้คาดดัชนียังคงอยู่ในภาวะซึมตัวลง ตามแรงกดหุ้นพลังงานและตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวต้านที่ 1386-1390 จุด และแนวรับที่ 1375-1370 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPN และ CENTEL

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มี.ค.) ว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.81 % ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวอยู่ที่ 4.4 หมื่น ลบ. ต่างชาติและสถาบันเป็นผู้ขายสุทธิ  แต่ต่างชาติยังคงมีสถานะ Long ใน Index Futures 962 สัญญา  ส่วนตลาดพันธบัตรต่างชาติขายสุทธิ 764 ลบ. ภาพรวมทิศทาง Fund Flows ในตลาดหุ้นไทยเริ่มทรงตัว ภาวะการซื้อขายหุ้นไทยวานนี้ได้รับผลกระทบจากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มชะลอตัว

ส่วนกลุ่มสื่อสารยังรอความชัดเจนการจ่ายเงินค่าใบอนุญาตของ JAS ในสัปดาห์หน้า กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับดัชนีไว้ที่ระดับ 1,376 จุด หากยืนไม่ได้แนะนำลดพอร์การลงทุน  เพื่อรอดูทิศทางความชัดเจนราคาน้ำมัน WTI จะสามารถยืนเหนือระดับ 35 USD./บาร์เรลได้หรือไม่

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มี.ค.) ว่าคาดดัชนีรีบาวด์ได้บ้าง ก่อนแกว่งตัวรอผลประชุมเฟด ภาพรวม SET ไซด์เวย์รอเฟดแถลง โดยคาดเฟดจะตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.25-0.50% และจะส่งสัญญาณ “รอดูสถานการณ์” ตลาดการเงินโลกและเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยช่วงกลางปี ด้านตลาดน้ำมันยังปรับฐานต่อ หลัง API รายงานสต็อกน้ำมันสูงกว่าคาดและตลาดไม่เห็นความชัดเจนต่อการประชุมนัดพิเศษวันที่ 20 มี.ค.นี้ สำหรับมุมมองครึ่งหลังของเดือนมี.ค.ยังมอง SET แกว่งตัวอิงทางลง หลัง valuations ตึง และตลาดเล่นข่าวบวกจากต่างประเทศไปมากแล้ว

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร AAV,COM7,ASEFA

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 มี.ค.) ว่ายังมองเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดหุ้นวันนี้ แม้จะเกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วันทำการ ขณะที่ SET วันนี้น่าจะ sideways ตามตลาดภูมิภาค

อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาเกิดจาก fund flow ที่ไหลกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากตลาดคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้ ดังนั้นพอใกล้มีการประชุมก็อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมบางส่วนเพราะเกรงว่าจะเกิด Sell on fact ซึ่งน่าจะเป็นไปตามที่เราคาดก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มตลาดจะในระยะถัดไปจะขึ้นอยู่กับถ้อยแถลงของเฟดที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมดังกล่าวเป็นสำคัญ ส่วนการประชุม BOJ ม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน แต่มีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นลงเล็กน้อย

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/สะสมหุ้นขนาดกลางและเล็ก/ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: EPG (ราคาหุ้นมี upside 26% จากราคาเป้าหมาย 16 บาท ปีนี้กำไรยังทำจุดสูงสุดใหม่)

 

Back to top button