SETบ่ายไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่หนุน เน้นเก็บ 13 หุ้นจาก 3 ปัจจัยบวก

บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งคล้ายช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,370 แนวต้าน 1,390-1,400 จุด เน้นเก็บ 13 หุ้นจาก 3 ปัจจัยบวก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (12 พ.ค.) แกว่งไซด์เวย์คล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกในวันศุกร์นี้ เพราะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศเรื่องการเก็งกำไรงบฯไตรมาส 1/59 เริ่มแผ่ว บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งคล้ายช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ  1,380-1,370 แนวต้าน 1,390-1,400 จุด

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึม ดัชนีฯเคลื่อนไหวไซด์เวย์คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยปัจจัยนอกประเทศต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกในวันศุกร์นี้ เพราะจะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯด้วย

ทั้งนี้ การเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียนเริ่มแผ่ว ต่างก็รอดูผลประกอบการตัวจริงออกมาเพราะเริ่มเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการประกาศงบฯแล้ว อีกทั้งนักลงทุนก็ยังกังวลว่าหลังเสร็จสิ้นการประกาศงบฯแล้ว จะไม่มี Story อะไร ตลาดฯจะปรับฐานหรือไม่ ดังนั้นนักลงทุนจึงเลือกที่จะรอซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมากกว่า

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า ซึ่งน้ำหนักยังอยู่ที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นขนาดใหญ่ประกาศงบฯกันหมดแล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอดูหุ้นขนาดกลางและเล็กงบฯจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,390-1,400 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ค.) ว่า การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันหนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ อย่าง PTT PTTEP รวมไปถึง PTTGC ที่ประกาศกำไรไตรมาส 1/59 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ SET ปรับสูงขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมาเด่นกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค

อย่างไรก็ตามยังมองการ Rebound จำกัด และยังแนะนำ “รอซื้อ” หุ้นหลักที่บริเวณแนวรับ 1,360-1,380 จุด ต่อไป ขณะที่ระยะสั้นแนะนำ “Selective” 1) ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ MTLS GL SAWAD KTC 2) จากข้อมูลสถิติให้ผลตอบแทนดีในเดือน พ.ค. MINT CENTEL BDMS BH และ 3) ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ออกมาดี อย่าง BEAUTY GLOBAL CPF SAWAD MTLS

CPF กำไรไตรมาส 1/59เติบโตแกร่ง +43% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +69% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และคิดเป็นประมาณ 31% ของประมาณการกำไรทั้งปี ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้ง

ขณะที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 2-3/59 เติบโตดีต่อเนื่องเนื่องจากเป็นช่วง High Season ของการส่งออก และราคาเนื้อหมูปรับสูงขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 30 บาท และระยะสั้นที่ 28.75-29.0 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

CPF    มูลค่าการซื้อขาย 1,773.88 ล้านบาท ปิดที่  27.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

IVL    มูลค่าการซื้อขาย   961.84 ล้านบาท ปิดที่  30.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   670.23 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง  1.50 บาท

TKN    มูลค่าการซื้อขาย   596.49 ล้านบาท ปิดที่  13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย   567.17 ล้านบาท ปิดที่  12.90 บาท ลดลง  0.60 บาท

 

 

Back to top button