ช่องอานม้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทบ.) เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (General Border Committee: GBC) ว่า คณะเลขานุการของทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหารือกันจนถึงเวลา 00.15 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม 2568 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่สามารถตัดสินใจในบางหัวข้อได้ทันที จึงต้องส่งเรื่องกลับไปยังรัฐบาลพนมเปญพิจารณา ส่งผลให้การสรุปข้อตกลงล่าช้า ล่าสุดเช้าวันนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารเพื่อเสนอต่อประธานของแต่ละฝ่ายพิจารณา แต่ยังไม่ถือเป็นข้อตกลงสุดท้ายจนกว่าจะผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ฝ่ายไทยเตรียมนำข้อสรุปดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมกับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางไปเป็นประธานฝ่ายไทยในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) สำหรับสถานการณ์บริเวณช่องอ่านม้า ซึ่งฝ่ายกัมพูชาพยายามตัดลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางไว้ตามแนวเขตอธิปไตย ล่าสุดกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายได้เจรจาและทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว โดยไม่มีเหตุเผชิญหน้าหรือความรุนแรงเกิดขึ้น ขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ และฝ่ายไทยได้ดำเนินการติดตั้งลวดหนามชุดใหม่ทดแทนที่ได้รับความเสียหายเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมออนไลน์กับเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวร และกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกในวันที่ 7 สิงหาคมเพื่อย้ำจุดยืนของไทยในการดำเนินการเชิงรุก ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อรัฐบาล สื่อมวลชน และประชาคมระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะเน้นย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลกว่า ยึดมั่นในหลักสันติวิธี ความจริงใจ และความสุจริตใจในการแก้ไขข้อพิพาทกับกัมพูชา และป้องกันการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีการเผยแพร่อย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ ทั้งนี้ ไทยได้ดำเนินกิจกรรมด้านการทูตอย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมเวทีเสวนากับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และการจัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อสื่อสารจุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนให้ชัดเจนในทุกมิติ สำหรับอีกหนึ่งประเด็นที่หารือในที่ประชุม ศบ.ทก. วันนี้ คือ การผ่อนปรนให้สามารถใช้ “โดรนเกษตร” ได้ในบางพื้นที่ภายหลังวันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยต้องขึ้นทะเบียนผู้ควบคุมอากาศยาน และลงทะเบียนผ่านระบบ UAS Portal ของสำนักงานการบินพลเรือน พร้อมจำกัดเวลาใช้งานเฉพาะช่วงกลางวันระหว่าง 06:00–18:00 น. ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการต่อไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงยังคงเข้มงวดในการสอดส่องการใช้งานโดรนทั่วประเทศ และบังคับใช้มาตรการห้ามบินจนถึงวันที่ 15 สิงหาคมอย่างเคร่งครัด