SETบ่ายยังขาดปัจจัยใหม่หนุนเก็บ 6 หุ้น จ่อเพิ่มประมาณกำไร

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แนะนำ"ซื้อ"กลุ่มหุ้นที่มี Momentum ในการปรับประมาณการกำไรขึ้น อย่าง SCC, CPF GLOBAL KKP SGP และ KCE เป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (18 พ.ค.)ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ตอบรับความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อดีดตัว ขณะที่จบช่วงประกาศงบฯทำให้ขาดปัจจัยใหม่หนุน แนะจับตารายงานผลการประชุม FOMC ให้แนวรับและจุดฟิวเตอร์ที่ 1,400 จุด แนวรับถัดไป 1,380-1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,420 จุด

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหลังเสร็จสิ้นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียน ทำให้ขาดปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น ขณะเดียวกันก็กังวลการปรับขึ้นอีตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย

ทั้งนี้ ช่วงต่อไปก็ต้องรอดูรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวขึ้น ทำให้มีกระแสหนุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะขณะนี้มีประธานสาขาเฟดอย่างน้อย 4 สาขาที่สนับสนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา เชื่อว่าดัชนีฯคงยังไม่ไปไหน ส่วนนักลงทุนรายสถาบันก็ได้ซื้อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้แล้ว พร้อมให้แนวรับและจุดฟิวเตอร์ที่ 1,400 จุด แนวรับถัดไป 1,380-1,360 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,410-1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 พ.ค.) ว่า แรงขายทำกำไรตั้งแต่เปิดตลาด หลัง Dow Jones ปรับลดลงแรงเมื่อคืนนี้กว่า 1% ไม่ได้ทำให้มุมมองการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ไปที่ 1,430-1,460 จุด เปลี่ยนไปจากเดิม โดยแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่มี Momentum ในการปรับประมาณการกำไร (Upward Revision) ขึ้น อย่าง SCC, CPF GLOBAL KKP SGP และ KCE เป็นหลัก

ขณะที่ CPF ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ออกมาดีกว่าคาดที่ 3.8 พันล้านบาท +27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ +133% เทียบไตรมาสก่อนหน้ายืนยันการ Turnaround และคาดว่า Momentum กำไรจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 2-3/59 มองกำไรทั้งปี 59 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท +80% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจกุ้งที่เพิ่มขึ้น

ราคาหมูที่ปรับสูงขึ้นมาที่ Bt78/Kg จากภาวะอุปทานตึงตัว หนุนอัตรากำไรในธุรกิจ Farm และการ Downsizing ธุรกิจในตุรกี ส่งผลให้มีส่วนแบ่งขาดทุนลดลง ขณะที่ธุรกิจ CPP ยังเติบโตแกร่ง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในเวียดนามเต็มปี ขณะที่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค ราคาหุ้นทะลุ Downtrend Line ขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 55-58 มีเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 32 หรือถัดไปที่ 33.25 บาท 

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,924.59 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท  

PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย   770.43 ล้านบาท ปิดที่  79.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท      

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   769.96 ล้านบาท ปิดที่ 315.00 บาท เพิ่มขึ้น  3.00 บาท         

JAS    มูลค่าการซื้อขาย   739.13 ล้านบาท ปิดที่   4.56 บาท ลดลง   0.06 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย   626.46 ล้านบาท ปิดที่  53.50 บาท ลดลง   0.25 บาท

Back to top button