SETไปต่อเป้าหมาย 1,460 จุดโบรกฯชูกลุ่มค้าปลีก 6 ตัวแจ่ม

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯยังมีโอกาสบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 จุด โบรกฯชูกลุ่มค้าปลีก 6 ตัวแจ่ม


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (7 มิ.ย.)ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ หลังประธานเฟดกังวลตัวเลขการจ้างงานคาดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เงินบาทแข็งค่าขึ้นและอาจมี Fund Flow ไหลเข้ามาในระยะสั้น แต่คาดตลาดฯ ผันผวนขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงรออยู่ บ่ายนี้ตลาดฯคงยังบวกต่อได้ให้แนวรับ 1,440 แนวต้าน 1,460 จุด

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ ภายหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความกังวลตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแย่ลง ทำให้คาดว่าเฟดคงชะลอขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-2 เดือน ดังนั้นคงจะต้องไปรอดูการปรับขึ้นอีกทีในเดือน ก.ย.

นอกจากนี้ เงินบาทก็แข็งค่าขึ้นด้วย ทำให้อาจมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี ตลาดฯแม้ว่าจะมี upside แต่ก็คงเป็นลักษณะผันผวนขึ้นไป เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ทั้งเรื่องที่ MSCI อาจจะนำหุ้น A-Shares ของจีน เข้ามาคำนวณใน EM Index คาดว่าจะประกาศวันที่ 15 มิ.ย.นี้ อาจทำให้หุ้นไทยถูกลดน้ำหนักการลงทุนลง นอกจากนี้ยังต้องติดตามการลงประชามติเรื่องที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู)

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯยังมีโอกาสบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 มิ.ย.) ว่า  กลุ่มหุ้นหลักอย่างพลังงาน ธนาคาร และสื่อสาร หนุน SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยคงเป้าหมายที่ 1,460 จุด ซึ่งที่แนวต้าน 1,460 จุด จะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นมากขึ้น (แต่มอง Downside Risk ไม่มาก)

การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่องช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัวหนุนรายได้ภาคการเกษตร (Farm Income) คาดการณ์หนี้ภาคครัวเรือน/GDP กำลังผ่านจุดสูงสุดในปีนี้ และปัญหาภัยแล้วที่บรรเทาลงหลังฤดูฝนปีนี้ หนุนการบริโภคภาคเอกชนต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มค้าปลีก อย่าง CPALL HMPRO GLOBAL BIGC MC ROBINS

ขณะที่แนะนำ “เก็งกำไร” CPALL ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 52 บาท จาก 1) ราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีกอย่าง ROBINS GLOBAL HMPRO 5-15% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา 2) การขยายสาขา และการเติบโตยอดขายต่อสาขาเดิม และรายจ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงหนุนกำไรโต 17-23% ในปี 2016-17 เป็น 1.6-2.0 หมื่นล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่ และ ROE เร่งตัวขึ้นจาก 33-40% ในปี 2014-15 เป็น 41-45% ในปี 2016-17 ขณะที่ในทางเทคนิคราคาหุ้นเคลื่อนไหว Sideways Up กำลังทะลุแนวต้านที่ 50 บาท จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 51.75/56 บาท CPALL กำลังทะลุแนวต้านที่ 50 บาท ลุ้นปรับขึ้นต่อไปที่ 51.75/56 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

SCB      มูลค่าการซื้อขาย 1,422.60 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

TASCO    มูลค่าการซื้อขาย 1,256.16 ล้านบาท ปิดที่  26.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท         

PTT      มูลค่าการซื้อขาย   922.02 ล้านบาท ปิดที่ 310.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท       

AOT      มูลค่าการซื้อขาย   706.73 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KBANK    มูลค่าการซื้อขาย   656.40 ล้านบาท ปิดที่ 177.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

Back to top button