SETบ่ายแกว่งตัวทั้งบวก-ลบแนะหุ้น CPF และ TFG เด่น

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังน่าจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า โดยมีการแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในช่วงที่ดัชนีย่อตัวลง แนะนำให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับราคาเนื้อหมูและไก่ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ CPF และ TFG พร้อมให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,436 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (8 มิ.ย.) รับแรงขายทำกำไรกลุ่มนิคมฯ-แบงก์ ทำให้ดัชนีที่ปรับขึ้นไปในช่วงต้นย่อตัวลงจนมาแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ยังไร้ปัจจัยหนุน ตลาดหุ้นภูมิภาคก็แกว่งตัวทั้งบวก-ลบ แนวโน้มตลาดฯภาคบ่ายน่าจะยังเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้า ให้แนวต้าน 1,450 จุด และแนวรับ 1,436 จุด

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงกดดันจากการร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งกลุ่มแบงก์ที่รับ Sentiment เชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงชะลอตัว

ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาเสริม เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากไร้ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และนักลงทุนรับรู้คาดการณ์แล้วว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นดอกแบี้ยสหรัฐฯในเร็วๆ นี้ไปแล้ว

ประกอบกับ ช่วงที่ผ่านมามีกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาครวมไปถึงตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก ทำให้วันนี้บางตลาดมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังน่าจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า โดยมีการแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในช่วงที่ดัชนีย่อตัวลง แนะนำให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับราคาเนื้อหมูและไก่ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ CPF และ TFG พร้อมให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,436 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ว่า  โดยมีประเด็น พรบ.ภาษีที่ดินฯใหม่ ที่กดดันสร้างความผันผวนให้กับตลาด ผนวกกับแรงขายทำกำไรหลัง SET เริ่มเข้าใกล้แนวต้าน 1,460 จุด อย่างไรก็ดี มอง Downside Risk ไม่มาก แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม” ในช่วงที่ SET ปรับฐานลงมา เพื่อกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,460 จุดอีกครั้ง

การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่องช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงแนวโน้มรายได้ภาคการเกษตร (Farm Income) ที่คาดจะฟื้นตัวได้เร็ว หนี้ภาคครัวเรือน/GDP ที่กำลังผ่านจุดสูงสุดไป และปัญหาภัยแล้งที่จะบรรเทาลงหลังฤดูฝนปีนี้ หนุนการบริโภคภาคเอกชนต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มสื่อไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจาก พรบ.ภาษีที่ดินฯ และเมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มสือ มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด และขณะที่หุ้นรายตัว RS (“เก็งกำไร” เป้าหมายพื้นฐาน 11.20 บาท แต่มองทางเทคนิคฟื้นตัวดีจากแนวรับ มีจังหวะขึ้นต่อที่ 11.6 บาท และ 12.5 บาท) คาดกำไรจะ Turnaround ปีนี้ ที่ 374 ล้านบาท +210% y-y จากธุรกิจ non-core อย่างธุรกิจความงาม RS ฟื้นตัวขึ้น เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.60 และถัดไปที่ 12.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

IVL      มูลค่าการซื้อขาย 1,125.95 ล้านบาท ปิดที่  33.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

TASCO    มูลค่าการซื้อขาย   996.34 ล้านบาท ปิดที่  27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท         

PTTEP    มูลค่าการซื้อขาย   965.37 ล้านบาท ปิดที่  81.75 บาท ลดลง  0.75 บาท       

PTT      มูลค่าการซื้อขาย   869.16 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

AOT      มูลค่าการซื้อขาย   694.97 ล้านบาท ปิดที่ 386.50 บาท ลดลง  1.00 บาท

 

Back to top button