EGCO ต่อสมาชิก CAC ครั้งที่ 3 ตอกย้ำนโยบายต้านทุจริต-คอร์รัปชัน
EGCO คว้าประกาศนียบัตรรับรองแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 3 พร้อมเดินหน้าดำเนินการธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้บริษัทในกลุ่มเข้าเป็นสมาชิก CAC
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO คว้าประกาศนียบัตรรับรองการต่ออายุสมาชิก แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ตอกย้ำนโยบายการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีและนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันที่เข้มแข็งทั่วทั้งองค์กร ทั้งได้ผลักดันให้พันธมิตร ตัวแทน และตัวกลางทางธุรกิจ เข้าใจและปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง
นางสาวสลิล ติระวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหารองค์กร EGCO เปิดเผยว่า EGCO Group ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ภายใต้หลักการกำกับกิจการที่ดี เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม ปราศจากคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่องกว่า 33 ปี ในปี 2567 EGCO Group ได้ปรับปรุงนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชัน ให้ครอบคลุมเรื่องการต่อต้านการทุจริต ขยายขอบเขตการบังคับใช้เพื่อผลักดันและสนับสนุนให้พันธมิตรทางธุรกิจ
รวมถึงตัวแทนและตัวกลางทางธุรกิจของกลุ่มเอ็กโกที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามกลุ่มเอ็กโกมีความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริม สื่อสาร อบรม และจัดกิจกรรมด้านธรรมาภิบาลให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานทุกระดับ รวมถึงคู่ค้า อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ EGCO ได้รับประกาศนียบัตรรับรองการเป็นสมาชิก CAC ครั้งแรกในปี 2558 ซึ่งประกาศนียบัตรรับรอง มีอายุ 3 ปี จากนั้นได้รับการพิจารณาต่ออายุใบรับรองเป็นครั้งที่ 1 ในปี 2562 ครั้งที่ 2 ในปี 2565 และครั้งที่ 3 ในปี 2568
นอกจากนี้ EGCO ยังได้ส่งเสริมให้บริษัทในกลุ่มเข้าเป็นสมาชิก CAC อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีบริษัทในกลุ่มเอ็กโกเป็นสมาชิก CAC อีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (โรงไฟฟ้าขนอม) ซึ่งได้รับการรับรองเป็นสมาชิก CAC ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 และบริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด หรือ ESCO ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก CAC ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 และอยู่ระหว่างขอรับการรับรองเป็นสมาชิก CAC ครั้งที่ 3
สำหรับ CAC ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันด้วยความสมัครใจในรูปแบบของแนวร่วม (Collective Action) ปัจจุบันมีบริษัทสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 125 บริษัท และมีพนักงานที่ร่วมเป็นเครือข่าย จำนวน 461,693 คน