THCOM ผนึก “กรมควบคุมมลพิษ” ใช้ AI-ดาวเทียม แก้ฝุ่น PM2.5

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการบริหารจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการคุณภาพอากาศของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ โดยงานนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ วว. พร้อมด้วย นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM ลงนามในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 กรมควบคุมมลพิษ

ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ทั้ง 3 ฝ่ายมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการพัฒนาแบบจำลองคาดการณ์ฝุ่น PM2.5 ด้วยการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก (Earth Observation Satellite) และข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เช่น ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลมลพิษทางอากาศ และข้อมูลอื่น ๆ มาวิเคราะห์ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence / Machine Learning) เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ทั่วประเทศ และสามารถวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางอากาศได้แบบรายพื้นที่

รวมทั้ง คาดการณ์การเกิดฝุ่นในพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้า 7 วันได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งยังสามารถจำแนกค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองและระบุระดับความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางอากาศได้ โดยปัจจุบันได้มีการแสดงผลบนเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้เฝ้าระวังและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อนำมาใช้บริหารจัดการและป้องกันปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ตลอดจนเป็นการช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เช่น การออกมาตรการควบคุมหรือการเตรียมความพร้อมรับมือให้แก่หน่วยงานภาครัฐต่อ เพื่อป้องกันและบรรเทาการเกิดมลพิษทางอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการมลพิษทางอากาศของประเทศ และหนึ่งในแนวทางสำคัญคือการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อเฝ้าระวังและคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)

โดยข้อมูลจากเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยติดตามพื้นที่เสี่ยงในเขตภูมิศาสตร์อากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการวางแผนและดำเนินงานทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ โอกาสนี้ เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ วว. และไทยคม ในการพัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารจัดการคุณภาพอากาศของประเทศ เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการนี้ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างเป็นระบบและยั่งยืน เราเชื่อว่าการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน จะนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน วว. ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ในพื้นที่นำร่อง  เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าวว่า ไทยคมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางอากาศโดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมมาวิเคราะห์ร่วมกับเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ติดตามสถานการณ์มลพิษทางอากาศ ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังและวางแผนรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ ความร่วมมือในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว และในอนาคต ไทยคมยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทย และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐและเอกชนในการรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป