TOP ติดตั้งโซลาร์เซลล์ 78 กิโลวัตต์ “โรงพยาบาลพนม” ลดภาระค่าไฟ-ยกระดับผู้ป่วย

“ไทยออยล์” ส่งมอบโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ 78 กิโลวัตต์ที่โรงพยาบาลพนม จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการ “Sustainable Energy for Healthcare & Education” ช่วยลดค่าไฟ เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโดยเฉพาะโรคไต ปี 2568 ขยายติดตั้งเพิ่ม 7 แห่งในพื้นที่อ.พนมและอ.อุ้มผาง กำลังผลิตรวม 122.10 กิโลวัตต์


นายบัณทิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กล่าวในงานพิธีส่งมอบโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิต 78.00 กิโลวัตต์ ให้กับโรงพยาบาลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างเป็นทางการ ภายใต้โครงการ “Sustainable Energy for Healthcare & Education” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ลดภาระค่าใช้จ่าย และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

อำเภอพนมมีภูมิประเทศเป็นป่าและภูเขา มีฝนตกเกือบตลอดปี และอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีถึง 84 กิโลเมตร มีประชากร 39,891 คน โรงพยาบาลพนมให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 250 คน โดยโรคที่พบบ่อย ได้แก่ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้ออักเสบ และเบาหวาน ส่วนผู้ป่วยในมีอัตราครองเตียงเฉลี่ย 31 เตียงต่อวัน โรคสำคัญ เช่น โรคติดเชื้อ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคผิวหนังอักเสบรุนแรง

โดยในพื้นที่มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 4,144 ราย เบาหวาน 1,991 ราย และผู้ป่วยโรคไตวายระยะสุดท้ายกว่า 153 ราย ซึ่งต้องเดินทางไปฟอกไตในพื้นที่อื่นรวมระยะทางกว่า 170 กิโลเมตรต่อครั้ง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยราว 1,000 บาทต่อวัน ถือเป็นภาระหนักของครอบครัวผู้ป่วย โรงพยาบาลพนมจึงมีแผนเปิดให้บริการหน่วยไตเทียมเพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชน แต่การเปิดให้บริการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมากและต้องมีเสถียรภาพ หากเกิดไฟดับ เครื่องฟอกไตจะหยุดทำงานภายใน 30 นาที ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ป่วยได้

ไทยออยล์จึงได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบ On-Grid กำลังการผลิต 78.00 กิโลวัตต์ ให้กับโรงพยาบาลพนม เพื่อเสริมความมั่นคงทางพลังงานให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไตในพื้นที่อย่างยั่งยืน

“หลังจากเปิดใช้งานระบบโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังผลิต 78 กิโลวัตต์ มาแล้ว 3 เดือน โรงพยาบาลพนมสามารถลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าได้เดือนละประมาณ 50,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำไปใช้จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นได้ต่อไป” นายบัณทิต กล่าว

สำหรับปี 2568 ไทยออยล์ยังได้ดำเนินโครงการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพิ่มเติมในพื้นที่ อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.อุ้มผาง จ.ตาก รวม 7 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 122.10 กิโลวัตต์ โดยนอกจากโรงพยาบาลพนมแล้ว ยังติดตั้งในพื้นที่อำเภออุ้มผางอีก 6 แห่ง ได้แก่

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ ระบบ Off-Grid กำลังการผลิต 8.82 กิโลวัตต์, โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่จันทะ ระบบ Off-Grid กำลังการผลิต 5.04 กิโลวัตต์, โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหม่องกั๊วะ ระบบ Off-Grid กำลังการผลิต 7.56 กิโลวัตต์,โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่กลองคี ระบบ On-Grid กำลังการผลิต 12.60 กิโลวัตต์, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนุโพ ระบบ Off-Grid กำลังการผลิต  5.04 กิโลวัตต์ และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหม่องกั๊วะ ระบบ Off-Grid กำลังการผลิต 5.04 กิโลวัตต์

นายบัณทิตกล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์ของโครงการ  “Sustainable Energy for Healthcare & Education” คือการสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน ลดภาระค่าใช้จ่ายของหน่วยงานสาธารณสุขและสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกล ส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานสะอาด และยกระดับบริการทางการแพทย์และการศึกษาของเยาวชน โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของไทยออยล์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการ ปี 2561–2567 ไทยออยล์ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวม 17 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 371 กิโลวัตต์ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้หน่วยงานสาธารณสุขและสถานศึกษาประมาณ 3 ล้านบาทต่อปี พร้อมต่อยอดประโยชน์ให้กับชุมชน เช่น การจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ พัฒนาระบบบริการสุขภาพกลุ่มโรค NCDs งานทันตกรรมและอุบัติเหตุฉุกเฉิน การจัดซื้อวัตถุดิบอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน เครื่องทำน้ำแข็ง ตู้เย็น และเครื่องกรองน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 346 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

นอกจากนี้ โครงการนี้สร้างคุณค่าครอบคลุม สามมิติหลัก ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของหน่วยงาน ด้านสังคม ช่วยให้หน่วยงานสามารถนำผลประหยัดไปต่อยอดโครงการเพื่อชุมชน เช่น การจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์และอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนให้บุคลากรในพื้นที่ และด้านสิ่งแวดล้อม ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

Back to top button