ซันสวีท–ทวีทอง เปิดเวทีนวัตกรรมเกษตรสุโขทัย ยกระดับผลผลิต–ลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี

ซันสวีท–ทวีทอง เปิดเวทีนวัตกรรมเกษตรครั้งแรกในสุโขทัย โดยดึงกว่า 400 เกษตรกรร่วมอัปสกิลสู่ Smart Farming โชว์ IoT–โดรน–AI เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และขยายพื้นที่ปลูกกว่า 6,000 ไร่ต่อปี สร้างระบบเกษตรยั่งยืนให้ชุมชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ร่วมกับ บริษัท ทวีทองการเกษตร จำกัด จัดงาน “นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรซันสวีทและทวีทอง ครั้งที่ 1” ณ สำนักงานทวีทอง สาขาหนองกลับ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยมีเกษตรกรกว่า 400 รายจากหลายพื้นที่เข้าร่วม พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐและท้องถิ่น เช่น รักษาการเกษตรจังหวัดสุโขทัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรอำเภอสวรรคโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลับ และกำนันตำบลหนองกลับ สะท้อนถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวโพดหวานไทยอย่างยั่งยืน

นางอัมพันธ์ สุริยัง ผู้อำนวยการฝ่ายห่วงโซ่อุปทาน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การยกระดับรายได้ให้เกษตรกรจากการปลูกข้าวโพดหวานเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นราว 20–25% ต่อปี โดยบริษัทเดินหน้าส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดความสูญเสีย และลดต้นทุนการเพาะปลูก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ SUN ในการสร้างระบบเกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่เกษตรกร

นอกจากนี้ SUN ยังตั้งเป้าพัฒนาไร่คู่กับความร่วมมือไปสู่ “เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming)” ผ่านการนำเครื่องมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เซนเซอร์ IoT สำหรับวัดสภาพดิน–น้ำ–อากาศ, โดรนเพื่อการพ่นปุ๋ย–สำรวจแปลง, ภาพถ่ายดาวเทียม, ระบบ AI วิเคราะห์สภาพแปลง และ Big Data สำหรับวางแผนการผลิต มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก ลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการไร่

โดยเป้าหมายดังกล่าวเชื่อมโยงกับการขยายพื้นที่เพาะปลูกกว่า 5,000–6,000 ไร่ต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบ และผลักดันอุตสาหกรรมข้าวโพดหวานไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน

ภายในงาน มีบริษัทคู่ค้ากว่า 26 แห่งร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย วัสดุเกษตร ระบบควบคุมแปลงเพาะปลูก และโซลูชันการเกษตรสมัยใหม่ อาทิ แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์, ซินเจนทา ซีดส์ (ประเทศไทย), เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส์, อีสท์ เวสท์ ซีด, ไบเออร์ไทย, เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม และลิสเซิลฟิลด์ โดยร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพให้เกษตรกร ทั้งการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การจัดการน้ำอย่างแม่นยำ การใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารต้นทุนในไร่ และการใช้ข้อมูลเพื่อวางแผนการเก็บเกี่ยว

โดยงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีด้านเทคโนโลยีเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบเกษตรกรรมในพื้นที่สู่ Agri-Tech Model ที่ทันสมัยและยั่งยืนมากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว เกิดเป็นความเข้มแข็งของชุมชนเกษตร และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเกษตรกรรมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

Back to top button