KCE ไม่กระเทือน ข่าวฉาว Volkswagenจังหวะดีเข้าเก็บช่วงราคาตก เป้า 70 บาท

โบรกฯชี้ข่าวอื้อฉาวของ Volkswagen เรื่องการทดสอบไอเสียใน US มีผลกับยอดขายรถ แต่กระทบถึง KCE แค่ทางอ้อม และน้อยมาก โดยคาดว่าแย่ที่สุดจะมี downside ประมาณ 1-2% ต่อประมาณการรายได้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นจังหวะซื้อที่ดี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 70 บาท


บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ย.) ว่า ผลกระทบต่อ KCE จากเรื่องอื้อฉาวของ Volkswagen (VW) กับการทดสอบไอเสียใน US ค่อนข้างจะจำกัด ถึงแม้ว่ายอดขายรถของ VW ในอเมริกา และทวีปอื่นๆ จะได้รับผลกระทบ แต่เราคาดว่านี้จะส่งผลถึง KCE แค่ในทางอ้อม และยังน้อยมากในขณะนี้

เรื่องอื้อฉาวของ VW เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนข้อมูลการปล่อยไอเสียของรถยนต์เครื่องดีเซลในอเมริกา ด้วยการลงโปรแกรมซอฟแวร์ที่สามารถจับได้ว่ารถกำลังถูกตรวจสอบอยู่ และลดการปล่อยการไนโตรเจนออกไซด์ลงระหว่างการทดสอบ ในขณะที่ปกติ เครื่องยนต์ปล่อยไอเสียมากถึง 40 เท่าของมาตรฐานที่รัฐบาลอเมริกากำหนดไว้ ซึ่ง VW ก็ได้หยุดการผลิต และการขายรถดังกล่าวที่ใช้เครื่อง TDI คลีนดีเซล 2.0 ลิตร

ถึงแม้ว่า Bosch (หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของ KCE) จะเป็นคนผลิตชิ้นส่วนส่งให้กับรถยนต์ VW แต่ยอดขายของ KCE ในทางอ้อมจาก VW คิดเป็นแค่ 4-8% (ทั้งรุ่นเบนซินและดีเซล) และแค่ประมาณ 25% ของรถ VW ทั้งหมดเป็นเครื่องดีเซล เราคาดว่านี้อาจจะทำให้มี downside ประมาณ 1-2% ต่อประมาณการรายได้ของเราในกรณีที่แย่ที่สุด โดยสมมติว่ายอดขาย VW ลดลง 20-30% ใน 2015F-17

ขณะที่ KCE ขาย PCB ให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นที่หนึ่งอย่าง เช่น Bosch และ Continental เพื่อนำไปประกอบเป็นชิ้นส่วนสำเร็จก่อนที่จะถูกส่งไปยังผู้ผลิตรถยนต์อย่าง BMW, Mercedes Benz, และ VW จึงทำให้ KCE มีผลกระทบจาก VW แค่ในทางอ้อมเท่านั้น ในเรื่องของความรับผิดทางสินค้า KCE และผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไม่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถยนต์ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับซอฟแวร์ของ VW ที่ถูกโปรแกรมอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซล และไม่เกี่ยวกับการบกพร่องของฮาร์ดแวร์

ทั้งนี้มองว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อ KCE น้อยมากๆ เนื่องจาก Bosch เองก็มีฐานลูกค้าที่กระจายอยู่ในหลายค่าย และ VW ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในค่ายรถยนต์ใหญ่ๆเหล่านั้น ถึงแม้ว่ายอดขายของ VW จะลดลง แต่เราคาดว่าผู้บริโภคจะแค่เปลี่ยนจากการซื้อรถยนต์จากผู้ผลิตรายหนึงไปยังอีกรายหนึ่ง (เช่น GM, Ford, BMW) ซึ่งล้วนเป็นลูกค้าของของ KCE ดังนั้นเราจึงคิดว่าผลกระทบจริงๆต่อบริษัทจะน้อยมากๆ

ขณะที่การดำเนินงานของ KCE ยังคงแข็งแกร่ง จากการเพิ่มการใช้กำลังการผลิตในโรงงานใหม่ และเฟส 2 ที่กำลังจะเสร็จใน 2H15 นี้ บวกกับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นในครึ่งหลังของปีที่ 33% เทียบกับ 30% ใน 1H15 ราคาหุ้น KCE ที่ตกลงมาเป็นจังหวะเข้าซื้อที่ดี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 70 บาท/หุ้น

Back to top button