โบรกแนะซื้อ MINT เป้า 34 บ. ลุ้นกำไร Q2 นิวไฮแตะ 3.7 พันล้าน

MINT ลุ้นกำไรไตรมาส 2/68 ทำนิวไฮแตะ 3.7 พันล้านบาท รับแรงหนุนโรงแรมยุโรป–มัลดีฟส์ฟื้นตัว โบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ราคาเป้าหมาย 34 บาท โดยบริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นไตรมาส 2/2568 (ข้อมูลถึงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2568) โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) โดยรวมเติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/2568 ที่ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ มีแรงหนุนหลักมาจากยุโรปที่ RevPAR เติบโต 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเดือนเมษายนที่ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาส 1/68 ที่ทรงตัว

ส่วนมัลดีฟส์เติบโตโดดเด่นที่ 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเทียบกับเดือนเมษายนที่ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ไทย RevPAR หดตัว 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพลิกจากเดือนเมษายนที่ยังขยายตัว 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนใกล้เคียงกับเดือนเมษายนที่ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลงจากไตรมาส 1/68 ที่อยู่ที่ 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำแนกเป็น ไทย ลดลง 3%, จีน ลดลง 7% และออสเตรเลีย ลดลง 4%

ฝ่ายนักวิเคราะห์ มองเป็นบวกจากตัวเลข RevPAR ที่ทำได้ดีตามคาด โดยได้รับแรงหนุนจากยุโรปที่เป็น Peak season และมัลดีฟส์ที่ทำได้ดีมากจากฐานต่ำในปีก่อนและมีการทาการตลาดได้ถูกกลุ่มลูกค้า

ขณะที่ ไทยหดตัวลงตามคาดจาก Low season ด้าน SSSG เริ่มเห็นการหดตัวลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังคงต้องติดตามกาลังซื้อที่มีความเสี่ยงจะลดลงได้อีก แต่สัดส่วนธุรกิจอาหารคิดเป็นเพียง 20% ของรายได้รวมทำให้ยังคงคาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 จะทำจุดสูงสุดของปี โดยจะเพิ่มขึ้นได้ทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อน

โดยคงประมาณการกำไรปกติปี 68 ที่ 9.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป ขณะที่คาดว่ากำไรจะทาจุดสูงสุดของปีในช่วงไตรมาส 2/68 จาก High season ที่ยุโรปโดยจะเพิ่มขึ้นได้ทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ราว 3.6-3.7 พันล้านบาท ดีกว่าที่คาดไว้เบื้องต้นที่ราว 3.5 พันล้านบาท

Back to top button