“บล.พาย” แนะซื้อ CPAXT เป้า 26 บ. ลุ้นกำไรครึ่งปีหลังเด่น-ขยาย “Lotus’s go fresh” 29 สาขา

บล.พาย แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPAXT มองแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น รับอานิสงส์การขยายสาขา Lotus’s go fresh ต่อเนื่องอีก 29 สาขา ให้ราคาเป้าหมาย 26 บาท หนุนแผนเติบโตระยะยาวและศักยภาพการทำกำไร


บริษัท หลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ 8 ส.ค. 68 ว่า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์และตลาดคาด หนุนจากยอดขายที่โต 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ธุรกิจขายส่ง (Makro) รายงาน EBITDA (หลังปรับปรุงรายการ) ที่ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในไตรมาสที่ 2/68  หนุนจากรายได้ 6.9 หมื่นล้าน บาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนจากยอดขายอาหารสดที่เติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

แม้ว่า ยอดขาย non-food จะลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงยอดขาย สาขาใหม่ในรูปแบบ Eco plus 3 สาขาที่พังงา อำนาจเจริญ และ นครศรีธรรมราช ภาพรวม SSSG ช่วง ไตรมาสที่ 2/68 ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หากตัดผลกระทบจากปัจจัยด้านสภาพอากาศที่ฤดูร้อนสั้น ดังกล่าวจะมี SSSG เพิ่มขึ้น 0.4% ในไตรมาสที่ 2/68 อัตรากำไรขั้นต้นของ ธุรกิจขายส่งเพิ่มขึ้น 60 bps เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในไตรมาสที่ 2/68 เป็นผลมาจาก Synergy benefits รวมถึงการจัดประเภทผลตอบแทนจากการสนับสนุนการ ขายร่วมกับคู่ค้าจากรายได้จากการให้บริการเป็นการลดต้นทุนขาย SG&A-to-sales ratio ใกล้เคียงกับปีก่อน

เนื่องจากค่าใช้จ่าย Omni Channel และการเปิดสาขาใหม่แต่ถูกหักลบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นผลจากการควบบริษัท และไม่มีค่าใช่จ่าย ก่อนการดำเนินงานของโครงการศูนย์การจายสินค้าวังน้อย

สำหรับธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s) รายงาน EBITDA ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในไตรมาสที่ 2/68 ผลจากรายได้จากการขายที่ 5.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจาก SSSG ของ Lotus’s ที่ทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (SSSG ของ Lotus’s ไทย ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ SSSG ของ Lotus’s มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากเงิน อุดหนุนจากภาครัฐจํานวน 100-200 ริงกิต มาเลเซีย / เดือน เพื่อให้ ใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าจําเป็น

การขยายสาขาในไตรมาสที่ 2/68 เปิด Lotus go fresh 29 แห่ง และปิดสาขาขนาดเล็ก 17 แห่งทําให้สิ้นไตรมาสมีจํานวน สาขาในไทย 2,502 สาขา และในมาเลเซีย 70 สาขา อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจค้าปลีกลดลง 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในไตรมาสที่ 2/68 ผลจากการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนการขายสินค้า และการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้า non-food SG&A-to-sales ratio ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นผลจากการควบบริษัท

ในส่วนของรายได้ส่วนธุรกิจศูนย์การค้าทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในไตรมาสที่ 2/68 ผลจากอัตราการเช่าพื้นที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 92% ทั้งในประเทศไทยและในประเทศ มาเลเซียในช่วงไตรมาสที่ 2/68 และการปรับสัดส่วนของกลุ่มผู้เช่า

โดยอัตรากำไรขั้นต้นรวมทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลง 15 bps เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จาก Synergy benefits และการค่าใช้จ่ายควบคุมที่ดีกำไรครึ่งแรกปี 68 คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปี 2568  โดย บล.พาย ยังคงคำแนะนํา “ซื้อ” รับปัจจัยบวกจาก Synergy benefits มูลค่าพื้นฐาน 26.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 1.5% เทียบเท่า 24 เท่าในปี 68 สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย สะท้อนภาพการเติบโตและ Synergy ที่จะทยอยรับรู้

Back to top button