
“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” มอง STECON ฟื้นตัวแรง รายได้ปีนี้แตะ 3.2 หมื่นลบ. ชูเป้า 9.50 บาท
“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” ประเมิน STECON ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่องจากงาน Solar และ Data Center หนุนรายได้ทั้งปี 3.2 หมื่นล้านบาท พ่วงงานในมือ (Backlog) 1 แสนล้านบาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้า 9.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงเป้ารายได้ของ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ในปี 2568 ที่ระดับ 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ทำได้แล้ว 48% ของเป้าทั้งปี และคงเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไม่น้อยกว่า 7% เทียบกับครึ่งปีแรกที่ทำได้ 7.2%
ผู้บริหารยังคงมั่นใจการบรรลุเป้าการเซ็นสัญญารับงานใหม่ทั้งปีที่ 5 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งแรกปี 2568 มีงานใหม่เพิ่มแล้ว 2.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะมีโอกาสจากโครงการภาครัฐอย่างน้อย 1-2 โครงการในช่วงที่เหลือของปี อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย รถไฟความเร็วสูง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด และ Data Center ขณะที่ Backlog ปัจจุบันอยู่ราว 1 แสนล้านบาท เพียงพอรองรับรายได้ต่อเนื่อง 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ยังไม่รวมโครงการอู่ตะเภามูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาทที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยต้องติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 สิงหาคม ภายหลังกลุ่ม UTA ขยายเวลาให้ภาครัฐออกหนังสือ NTP ถึงวันที่ 29 สิงหาคม หากไม่มีข้อสรุปหรือเจรจาไม่สำเร็จอาจนำไปสู่การไม่ขยายอายุสัญญา ซึ่ง UTA มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลได้ โดยเงินลงทุนที่ทำไปแล้วในช่วง 5 ปีมีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่ง STECON ถือหุ้นอยู่ 20%
นักวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2568 จะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบทั้งครึ่งปีแรกและปีก่อน จากรายได้โครงการ Solar และการทยอยรับรู้รายได้ Data Center เริ่มตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/2568 ขณะที่ GPM คาดทรงตัวที่ราว 7% และ SG&A มีแนวโน้มลดลงจากครึ่งแรกปี 2568 อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิครึ่งหลังปีนี้คาดอ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรกเพราะไม่มีรายการพิเศษ แต่ยังฟื้นตัวจากปีก่อนที่ขาดทุน
ฟินันเซีย ไซรัส ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 จากเดิมขึ้น 41% เป็น 1.3 พันล้านบาท เทียบกับปี 2567 ที่ขาดทุนสุทธิ 2.4 พันล้านบาท โดยกำไรดังกล่าวรวมเงินเคลมประกันโครงการอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองในไตรมาส 2/2568 ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 967 ล้านบาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเดิมที่ 9.50 บาท อิง P/BV 0.8 เท่า