“ลิเบอเรเตอร์” แนะซื้อ MAGURO เป้า 30.75 บาท ชี้ Q4 โตรับไฮซีซั่น-ขยายเพิ่ม 6 สาขา

“ลิเบอเรเตอร์” มองบวก MAGURO แนวโน้มกำไร Q4/68 ฟื้นตัวโดดเด่นจากการขยายสาขา โปรโมชันหนุนยอดขาย และปรับสาขาขาดทุนเป็นบุฟเฟต์ช่วยดึงลูกค้า คงเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 30% เคาะเป้า 30.75 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด หรือ Liberator เปิดเผยบทวิเคราะห์วันนี้ (19 พ.ย.68) แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO จากแนวโน้มผลประกอบการที่ยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยมองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 38 ล้านบาท และหากไม่รวมรายการตัดจำหน่ายระบบเทคโนโลยีเดิม จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.6 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 47.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยบริษัทเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 15 แห่งในปีนี้ ส่งผลให้จำนวนสาขารวมเป็น 53 แห่งตามแผนที่วางไว้ พร้อมเตรียมเปิดร้าน TONKATSU AOKI เพิ่มอีก 2 สาขาภายในปี 2568 และเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวดีมีคืน” ในไตรมาส 4 ปี 2568 เพื่อกระตุ้นยอดขายปลายปี

ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลง 132 จุดพื้นฐาน เหลือร้อยละ 47.4 เนื่องจากการทำโปรโมชัน แต่ช่วยให้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) หดตัวเพียงร้อยละ 2.7 จากเดิมที่หดตัวร้อยละ 9.8 ในไตรมาสก่อน ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดระบบสมาชิกใหม่ “Give More+ Club” ที่ลูกค้าสามารถสะสมแต้มได้ทุกแบรนด์ภายใต้ MAGURO

ทั้งนี้ แม้ยอดขายก่อนหน้านี้จะหดตัวต่อเนื่องถึง 5 ไตรมาส แต่บริษัทได้ปรับสาขาที่ทำผลงานไม่ดี 2 แห่ง ได้แก่ สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต และสามย่าน มิตรทาวน์ ให้เป็นร้านรูปแบบบุฟเฟต์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่รอต่อคิวเต็มหน้าร้าน

พร้อมกันนี้ ผู้บริหารยังคงแผนขยายร้านราว 15 สาขาต่อปี ซึ่งถือเป็นแผนเชิงอนุรักษ์นิยม พร้อมเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่อีก 2-3 แบรนด์ และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมเพื่อเพิ่มปริมาณลูกค้า โดยมองว่ารายได้ปี 2568 จะเติบโตสูงกว่าเป้าที่ร้อยละ 30 ทั้งที่รายได้ 9 เดือนแรกใกล้เคียงรายได้ทั้งปี 2567 แล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้กำไร 9 เดือนแรกคิดเป็นร้อยละ 69.1 ของประมาณการทั้งปี แต่เชื่อว่าไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่ราว 6 สาขา จะเป็นแรงหนุนสำคัญ จึงคงประมาณการเดิม และให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 30.75 บาทต่อหุ้น

Back to top button