SET ปิดเช้าร่วง 11 จุด หลังบอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็ง หวั่นเฟดลด QE กดฟันด์โฟลว์

SET ปิดเช้าร่วง 11 จุด หลังบอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งค่า กังวลเฟดเปิดไทม์ไลน์ลด QE ส่งผลฟันด์โฟลว์ชะลอลงทุนรอผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า อีกทั้งยอดติดเชื้อโควิดในปท.เพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังลบต่อเนื่อง ให้แนวรับที่ 1,617 จุด แนวต้านที่ 1,627 จุด


10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,621.15 จุด ลดลง 10.55 จุด (+0.65%) มูลค่าการซื้อขายราว 52,432 ล้านบาท

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงกว่า 10 จุด มาจากปัจจัยหลักกดดัน คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) พุ่งขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจากความกังวลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า (21 – 22 ก.ย.) อาจจะเปิดเผยช่วงเวลาปรับลดวงเงินโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจำนวนวงเงิน ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ชะลอ โดยเงินบาทอ่อนค่ามากสุดในรอบ 1 เดือน และรอติดตามสัญญาณของเฟดสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศปรับตัวขึ้นมาระดับ 1.40 หมื่นรายจากที่เคยลงไปแตะ 1.10 หมื่นราย หลังคลายล็อกดาวน์มา 15 วันทำให้เกิดความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19

ส่วนกรณีไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีนประกาศยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด อาจกระทบกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ถือหุ้นกู้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ฯ แต่อสังหาริมทรัพย์ไทยไม่กระทบเพราะไม่มีการร่วมลงทุนแต่อย่างใด

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่าย นายศราวุธ คาดว่า ยังเคลื่อนไหวในแดนลบต่อเนื่องจากช่วงเช้า ยกเว้นกลุ่มส่งออก กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า โดยให้แนวรับที่ 1,617 จุด แนวต้านที่ 1,627 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KCE มูลค่าการซื้อขาย 4,312.06 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,809.80 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 2,378.41 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.75 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,281.48 ล้านบาท ปิดที่ 568.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,234.44 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

 

Back to top button