กลยุทธ์การเงิน

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB รายงานว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.55 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินหลักในตลาดโลก โดยบรรยากาศการลงทุนในตลาดเงินยังเฝ้าติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ตลอดจนการเปิดเผย Dot Plot และประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐ อาทิ GDP อัตราว่างงาน และเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นไปตามความคาดหมายของตลาด และไม่สร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดเงินในภาพรวมมากนัก ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยล่าสุดชี้ว่า ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลง 0.2% สวนทางกับคาดการณ์ที่คาดว่าจะทรงตัว ขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง 0.9% หนักกว่าที่คาดไว้ที่ 0.6% ซึ่งชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนเมษายน โดยนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่ายังเป็นผลต่อเนื่องจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติในตลาดทุนไทยเมื่อวานนี้ พบว่ามีการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 607 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยมูลค่า 3,865 ล้านบาท สะท้อนแรงขายจากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินสหรัฐ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 32.50–33.00 บาท/ดอลลาร์ และแนะนำกลยุทธ์ทยอยซื้อเมื่อค่าเงินอยู่ที่ระดับ 32.50 บาท และขายเมื่อแตะระดับ 33.00 บาท สำหรับค่าเงินสกุลหลักอื่น ๆ มีกรอบและกลยุทธ์แนะนำ ดังนี้ ยูโร (EUR/THB) เคลื่อนไหวในกรอบ 37.20–37.70 บาท แนะนำซื้อที่ 37.20 บาท และขายที่ 37.70 บาท เยนญี่ปุ่น (JPY/THB) เคลื่อนไหวในกรอบ 0.2220–0.2270 บาท แนะนำซื้อที่ 0.2220 บาท และขายที่ 0.2270 บาท ปอนด์อังกฤษ (GBP/THB) เคลื่อนไหวในกรอบ 43.60–44.00 บาท ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD/THB) เคลื่อนไหวในกรอบ 20.80–21.30 บาท