คดีลอยแพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับเรื่องร้องเรียนจาก นายคอซีย์ มามุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี พร้อมคณะ ส.ส.จากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีกลุ่มผู้แสวงบุญกว่า 170 คน ถูกบริษัทนำเที่ยวชื่อ “รุส ฮัจย์ แอนด์ ทราเวล จำกัด” ลอยแพ ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ตามกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายรายละประมาณ 75,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนแล้ว ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด รวมถึงให้หน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อเข้าร่วมติดตามเส้นทางการเงินและพฤติกรรมการหลอกลวงของบริษัทดังกล่าว เตรียมดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่า เจ้าของบริษัทได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว นายสันติ ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของพี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปประกอบศาสนกิจ โดยเฉพาะการแสวงบุญอุมเราะห์และฮัจญ์ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญทางศาสนา จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางธุรกิจของบริษัททัวร์นำเที่ยวทุกแห่งอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต พร้อมเตรียมวางมาตรการคัดกรองบริษัทนำเที่ยวที่มีพฤติกรรมส่อทุจริต “เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่เป็นความเดือดร้อนทางจิตใจของพี่น้องผู้ศรัทธา ที่ตั้งใจจะไปแสวงบุญตามหลักศาสนา ผมได้กำชับให้หน่วยงานทุกฝ่ายเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด” นายสันติ กล่าว